เปิดประวัติ บ้านไม้สักทองวิวสภา เจ้าของสืบเชื้อสายสุลต่านบรูไน เจ้าเมืองสงขลา สมัยกรุงศรีอยุธยา

เปิดประวัติ บ้านไม้สักทอง 200 ล้าน ริมเจ้าพระยา เจ้าของสืบเชื้อสายสุลต่านบรูไน เจ้าเมืองสงขลา สมัยกรุงศรีอยุธยา

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ประกาศขายที่ดินติดแม่น้ำเจ้าพระยา วิวมองเห็นสัปปายะสภาสถาน พร้อมบ้านเก่าสุดคลาสสิก ราคา 200 ล้านบาทนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจาก ดร.นิดา ตันติรัตนสุนทร เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเผยว่า สกุลเดิมของ ดร.นิดา คือ สกุล “พานิชนก” ทางฝั่งของพ่อ และสกุลของฝั่งแม่ คือ “สิทธิวณิช” ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากสุลต่านสุไลยมาน ทั้งสองสายสกุล

Advertisement

ทั้งนี้ สุลต่านสุไลยมาน เป็นบุตรชายคนโตของ ท่านดาโต๊ะ โมกอล เป็นชาวอาหรับเปอร์เซีย นับถือศาสนาอิสลาม ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ให้ขึ้นครองนครสงขลาสืบต่อจากบิดา และหลังจากสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้ขึ้นครองราชย์ สุลต่านได้ส่งทูตไปยังกรุงศรีอยุธยา ซึ่งสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงรับทูตนั้นไว้ด้วยความยินดี

และเมื่อเปลี่ยนราชวงศ์จากปราสาททองเป็นบ้านพลูหลวง พระเพทราชาทรงมอบตำแหน่งเจ้าเมืองพัทลุงให้บุตรชายอีกคนหนึ่งของสุลต่านได้ครองและดำรงตำแหน่งพระยาจักรี เชื้อสายของพระยาจักรีสืบสายเป็นขุนนางไทยมาจนถึงสมัยธนบุรี และรัตนโกสินทร์ตอนต้น ส่วนใหญ่ได้ดำรงตำแหน่งพระยาราชวังสัน มีอำนาจหน้าที่ทางด้านทัพเรือ อีกทั้งเชื้อสายของสุลต่านสุไลยมานเกี่ยวข้องกับราชวงศ์จักรี ผ่านทางสมเด็จพระศรีสุลาไลย และสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

Advertisement

ในปัจจุบัน หนึ่งในชุมชนผู้สืบเชื้อสายจากสุลต่านสุไลยมานที่อยู่ในกรุงเทพมหานครคือ ชุมชนมุสลิมบางอ้อ ซึ่งบ้านหลังนี้คุณตาของ ดร.นิดา สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 8 และเนื่องจากตระกูลของ ดร.นิดาในอดีตได้ประกอบธุรกิจเดินเรือ รวมถึงประกอบธุรกิจแพซุง บ้านหลังนี้จึงสร้างขึ้นมาจากไม้สักทองทั้งหลังโดยมีผนังด้านในเป็นปูน ฐานรากใช้แพซุงเรียงตัวเป็นฐานเพื่อรองรับเสาบ้านซึ่งเป็นไม้ซุงเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม บ้านไม้สักทองหลังนี้เป็นบ้านที่ ดร.นิดา และครอบครัวอยู่กันตอนเด็กๆ แต่ปัจจุบันไม่ได้อาศัยอยู่และทิ้งไว้เฉยๆ มานานมากแล้ว เพราะทุกคนต่างมีบ้านหลัง และไม่มีใครกลับมาบูรณะเพื่ออยู่อาศัยอีกแล้ว จึงตัดสินใจว่าควรขายน่าจะดีกว่า โดยอยากเลือกผู้ซื้อให้ได้คนที่รู้คุณค่าอย่างแท้จริง ในตอนแรกที่ ดร.นิดาและครอบครัวไม่ยอมขายมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะรู้สึกเสียดาย เนื่องจากบ้านริมน้ำหลังนี้มีความหมาย เคยสวยงามมาก วิวสวย บรรยากาศดี และอยู่สบายมากๆ ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image