อ.เจษฎ์ แจงแมลงเม่าทานตะวันไม่ใช่ลางบอกเหตุ แค่สวยแปลกตาดี
จากกรณีมีหญิงรายหนึ่งพบกลุ่มแมลงเม่ามารวมกลุ่มกันมองดูคล้ายดอกทานตะวัน ซึ่งด้านพ่อเฒ่าในหมู่บ้านก็เชื่อว่าเป็นลางบอกเหตุว่ากำลังจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ ตามที่ได้นำเสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ถึงกรณีดังกล่าว โดยได้ระบุเป็นข้อความว่า
“แค่พวกแมงเม่า มันแย่งกันมุดลงดินครับ”
รศ.ดร.เจษฎา กล่าวว่า แมงเม่า ก็คือปลวกที่มีปีก พอมันลงสู่พื้นแล้ว ก็จะพยายามมุดลงดินไปสร้างรังปลวกต่อไป ซึ่งปีกก็จะหลุดออกอยู่ตามพื้น ซึ่งไม่ได้เป็นลางบอกเหตุอะไร ไม่ต้องกังวลแต่สวยแปลกตาดี
ส่วนที่บางบ้าน บางที่ มีแมงเม่าค่อนข้างเยอะช่วงนี้ ก็ไม่ได้เป็นลางบอกเหตุอะไรเช่นกัน ซึ่งตนได้นำเนื้อความที่ ดร.แก้ววิภา รัตนจันทร์ นักกีฏวิทยาชำนาญการพิเศษ หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านกีฏวิทยาป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เคยให้สัมภาษณ์ไว้มาให้อ่านกัน โดยมีเนื้อความดังนี้
“แมงเม่า คือ ตัวเต็มวัยของปลวก หรือปลวกที่มีปีกนั่นเอง ซึ่งพบเห็นทั่วไป ทั้งในป่าและตามบ้านเรือน โดยแมงเม่านั้นจะออกจะออกมาเล่นไฟ ภายหลังฝนตก หรือช่วงเวลาที่มีอากาศ และความชื้นที่เหมาะสม และอยู่ในช่วงวงจรชีวิตที่ปลวกจะออกมาเป็นตัวแมงเม่าพอดี
ช่วงที่แมงเม่าออกมาเล่นไฟนั้น จะเป็นช่วงการหาคู่และจับคู่กันด้วย นั่น คือ เมื่อได้คู่แล้วก็จะสลัดปีกทิ้ง แล้วตัวผู้ตัวเมียก็จะผสมพันธุ์กัน เพื่อให้ได้เป็นปลวกตัวอ่อน เป็นวงจรชีวิตต่อไป
การที่แมงเม่าสลัดปีกทิ้ง และเห็นปีกกองอยู่จำนวนมากๆนั้น ไม่ได้หมายความว่า ตาย แต่หมายถึง เขาได้คู่แล้ว จะไปสร้างรังใหม่ และพร้อมผสมพันธุ์เพื่อสืบเผ่าพันธุ์ต่อไป
การที่ปีนี้ เราเห็นแมงเม่าในปริมาณที่มากกว่าปกติ ไม่น่าจะเกี่ยวกันกับภาวะโลกร้อน เพราะเห็นเป็นแบบนี้ทุกปี ที่เห็นเยอะอาจจะเป็นเพราะทุก ๆ ปีฤดูร้อนแล้ว ฝนจะค่อย ๆ ทยอยตก แต่ปีนี้ฤดูร้อนค่อนข้างยาว และฝนตกลงมาทีเดียวพร้อมกันทั่วประเทศ บวกกับ ได้เวลาที่ตัวเต็มวัยจะออกมาพอดี ก็เลยเห็นออกมาเยอะ
แมงเม่าเกือบทุกชนิกกินได้ โดยคนที่ตั้งใจจะกิน จะไม่เก็บแมงเม่าที่ร่วงหล่นตามดินดินกิน เพราะจะสกปรก มีขี้ดินขี้ทรายเจอปน แต่จะใช้วิธีตักน้ำในภาชนะวางไว้แมงเม่าหล่นลงไปในน้ำ ซึ่งนำไปกินได้”
