เพจดัง ขอบคุณได้รับโอกาสจากร.ร. หลังเกิดดราม่า ‘ไม่เท่าเทียม’ ขอนำเป็นบทเรียนใช้ปรับปรุงตัว

วันที่ 14 มิถุนายน 2567 - 17:12 น.

เพจดัง ขอบคุณได้รับโอกาสจากโรงเรียน หลังเกิดดราม่า ‘ไม่เท่าเทียม’ ขอนำเป็นบทเรียนใช้ปรับปรุงตัว

หลังจากกรณีเพจ “Tor Rungrojn ผู้ชายเลี้ยงลูก” ที่มีผู้ติดตาม 3.5 แสนคน ซึ่งเป็นเพจบอกเล่าประสบการณ์ของคุณพ่อในการเลี้ยงลูก ออกมาโพสต์เรื่องความไม่เท่าเทียมกันในโรงเรียน โดยคุณพ่อยกประเด็นว่า ถูกโรงเรียนเรียกไปพูดคุยเรื่องการให้ “ลูกขี่คอ” พร้อมกับระบุว่า ถูกสั่งห้ามไม่ให้ทำลักษณะนี้อีก

ต่อมาทางโรงเรียนออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น กลายเป็นคนละมุม จนกระแสตีกลับทำให้เจ้าของเพจ ประกาศขอโทษและประกาศปิดเพจ เป็นเวลา 15 วัน

ล่าสุดทางโรงเรียนอัพเดตว่า ภรรยาเจ้าของเพจ ได้ติดต่อมาขอโทษ และขอโอกาสให้ลูกได้เรียนที่เดิมแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “Tor Rungrojn ผู้ชายเลี้ยงลูก” โพสต์ข้อความระบุว่า

วันนี้ได้รับโอกาสจาก โรงเรียนอมาตยกุล

ให้เข้ารับจดหมายฉบับจริง

และรับคำขอโทษจากครอบครัวของเราอีกด้วย

ดีใจมากที่สุด ตื้นตันครับ

นี่เป็นเหตุการณ์ที่เราคาดไม่ถึง

จะจำวันนี้ไว้เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิตอีกบทหนึ่ง

เราสองคนขอโอกาสในฐานะ พ่อ แม่

ปัญหาครั้งนี้ใหญ่มากจริงๆ ครับ

เราจะพยายามรวบรวมปัญหาในทุกๆประเด็น ครับ

เราสองคนขอโอกาส เพื่อจับมือกันในการปรับปรุง

แก้ไขให้ดีขึ้น ขอเวลาให้พวกเราด้วย ครับ

พ่อต่อ แม่เป้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

หลังจากโพสต์ไปไม่นานมีคนแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น

“เป็นกำลังใจให้ทั้งพ่อแม่และโรงเรียน ขอให้เรื่องนี้กระทบกับเด็กน้อยที่สุด เพราะเด็กต้องไป รร ไปเจอเพื่อน ไปเจอสังคมของเขาทุกวัน อย่าให้คอนเทนต์ของพ่อแม่ทำร้ายสังคมที่ลูกอยู่เลย”
“ครั้งต่อไปก่อนลงอะไรก็ใจร่มๆนะคะ”
“จนวันนี้คุณก็ยังไม่พูดความจริง ว่าเหตุการณ์นั้นไม่เคยเกิดขึ้น คุณไม่ได้ถูกต่อว่าเรื่องขี่คอ ไม่มีประโยคนี้ออกมาเหมือนวันที่คุณโพสต์ ถ้าคนไม่ได้อ่านคำแถลงของ ร.ร. จากที่อื่น ก็คงคิดว่าคุณขอโทษเรื่องเด็กขี่คอต่อไป ทั้งๆที่มันไม่ใช่”
“เป็นกำลังใจให้นะคะ ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาดคะ เมื่อพลาดแล้ว การขอโทษการแก้ไข ไม่ให้เกิดขึ้นอีก นั้นคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้วคะ”
“ต้องการให้ลูกเรียนต่อที่เดิม นึกถึงสิ่งที่ลูกจะต้องเจอบ้างมั้ยอะ เหลือจะเชื่อจริงๆ”
“แล้วเรื่องเล่าที่ผ่านมา ตกลงเรื่องจริงรึเรื่องแต่งล่ะเนี่ย”