อดีต รมว.คลัง ประกาศค้านแนวคิด “รีดเงินน้ำมันเข้ากองทุนฯเพิ่มอีก100% “

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงความเห็นกรณีมีข่าวว่าคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่พลอากาศเอกประจิน จั่นตองเป็นประธาน มีการพิจารณาจะเก็บเงินเข้ากองทุนเพิ่ม อีกหนึ่งเท่าตัว โดยระบุว่า

ผมขอคัดค้านเต็มรูปแบบครับ

การเก็บเงินเข้ากองทุน เป็นการสร้างต้นทุนให้แก่ประชาชนผู้ใช้น้ำมันอยู่แล้ว ยิ่งเก็บเพิ่มขึ้น ก็จะยิ่งเพิ่มต้นทุนให้แก่ประชาชนมากขึ้นไปอีก

การเก็บเงินเข้ากองทุน มีผลไม่ต่างจากการเก็บภาษี ยิ่งภาวะเศรษฐกิจกรอบยอบแยบอย่างนี้ จะยิ่งกดดันกำลังซื้อของประชาชน แต่การเก็บภาษีเพิ่มนั้น ประชาชนอาจจะพอยอมรับได้ เพราะทราบว่าขบวนการเอาเงินไปใช้จ่าย ต้องผ่านระบบงบประมาณ ต้องผ่านสภา มีกรรมาธิการพิจารณาความเหมาะสม และมีขบวนการติดตามตรวจสอบที่รัดกุม

Advertisement

ส่วนการใช้เงินของกองทุนต่างๆ นั้น อยู่นอกระบบงบประมาณ เป็นแดนสนธยาของคณะกรรมการกองทุนต่างๆ

ที่ผ่านมา จึงได้เกิดข้อสงสัย ว่ากองทุนต่างๆ ทำตัวเป็นแม่นม เอาไว้เลี้ยงดูเจ้าประจำ ที่คอยดูดเงินออกไปจากกองทุนหรือไม่ กองทุน ส.ส.ส. ถูกวิจารณ์มากสุด และบัดนี้ ภาคประชาชนก็เริ่มตั้งคำถามเดียวกัน สำหรับกองทุนอนุรักษ์ฯ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนใด ก่อนที่จะคิดเพิ่มเงินเข้ากองทุน คณะกรรมการควรจะเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้แก่ประชาชนเสียก่อน

1. ตั้งแต่เริ่มตั้งกองทุนมาถึงปัจจุบัน มีการใช้เงินไปเพื่อโครงการใดบ้าง
2. มูลนิธิต่างๆ ที่ได้เงินไปจากกองทุน ชื่ออะไร จำนวนเงินเท่าใด บุคคลใดเป็นกรรมการ
3. การคัดเลือกมูลนิธิทำอย่างไร มีการพิจารณาในคณะกรรมการ และในคณะอนุกรรมการอย่างไร เปิดเผยรายงานการประชุมที่เกี่ยวข้องทุกกรณี

Advertisement

สาเหตุที่ผมเน้นการผันเงิน จากกองทุนออกไปยังมูลนิธิ เพราะผมเห็นว่าเป็นช่องทางรั่วไหลที่สะดวกที่สุด เนื่องจาก เมื่ออ้างการเป็นมูลนิธิ คนทั่วไปจะเข้าใจว่า ไม่มุ่งหากำไร จึงอาจจะพิจารณาจ่ายเงินจากกองทุนได้ง่ายกว่า อาจจะไม่จำเป็นต้องมีกระบวนการแข่งขัน หรือปฏิบัติตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการ แต่มูลนิธิบางแห่ง มีลักษณะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เพื่อเลี้ยงดูบุคคลที่กุมอำนาจอยู่ในมูลนิธิ การจ่ายเงินออกจากมูลนิธิ ก็ทำได้ง่าย เพราะการคัดเลือกจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ต้องใช้ระเบียบราชการ เพราะการตรวจสอบบัญชี ไม่ต้องใช้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กองทุนต่างๆ จึงนิยม และมีการให้เงินออกไปผ่านทางมูลนิธิกันมาก

ดังนั้น ก่อนจะคิดหาเงินเข้ากองทุนเพิ่ม ขอให้รัฐบาลกำหนดข้อบังคับ ให้มีการตรวจสอบการใช้เงินจากกองทุน ที่เข้มข้นมากขึ้นเสียก่อน
ขอให้รัฐบาล กำหนดให้ทุกกองทุนต้องมีการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ อย่างเต็มที่ ทั้งข้อมูลที่ควรเปิดเผยประจำโดยคณะกรรมการกองทุน และข้อมูลที่ควรบังคับให้เปิดเผย ตามที่ประชาชนมีข้อสงสัย และยื่นขอเอกสารต่างๆ เพราะเงินที่ออกไปจากทุกกองทุน ทุกกรณี ทุกบาททุกสตางค์ เป็นเงินของประชาชนนะครับ

40

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image