จี้ มข. แจง เหตุตัดสิทธิขึ้นรับปริญญา บัณฑิตโอด เสียเงิน เสียเวลา เสียโอกาสสำคัญในชีวิต
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม เพจดัง ใต้เตียงมข. ได้ออกมาโพสต์ถึงกรณีบัณฑิต มข.ถูกตัดสิทธิขึ้นรับปริญญาแบบงงๆ โดยระบุข้อความว่า “ปริญญาในฝันที่ไม่สมหวัง? บัณฑิต มข. ถูกตัดสิทธิขึ้นรับปริญญาแบบงงๆ
‘บัณฑิตสะเทือนใจ! มข. ตัดสิทธิรับปริญญา อ้าง ‘คุณสมบัติต้องห้าม’ แต่ไม่แจงเหตุผล ชี้ระบบล่าช้า-ไม่เป็นธรรม’
เรื่องราวที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่สังคมและบัณฑิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รายหนึ่ง หลังถูกตัดสิทธิเข้าร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตรอย่างไม่มีคำชี้แจงที่ชัดเจน โดยอ้างประกาศมหาวิทยาลัยที่ระบุถึง ‘คุณสมบัติต้องห้าม’ แต่กลับไม่มีรายละเอียดที่โปร่งใส ทำให้เจ้าตัวเสียโอกาสสำคัญในชีวิตและตั้งคำถามถึงความยุติธรรมในกระบวนการพิจารณาของมหาวิทยาลัย
ความผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้น
1.แจ้งสิทธิล่าช้า :
- แม้เจ้าตัวได้ลงทะเบียนและดำเนินการทุกขั้นตอนตามกำหนด แต่กลับได้รับการแจ้งตัดสิทธิจากสำนักบริหารและพัฒนาวิชาการในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้พิธีรับปริญญา ทั้งที่หากบัณฑิตไม่ผ่านคุณสมบัติจริง มหาวิทยาลัยควรแจ้งตั้งแต่เริ่มต้นการลงทะเบียน
2.ไร้คำอธิบายชัดเจน :
- ประกาศมหาวิทยาลัยฉบับที่ 1573/2566 ระบุว่า ผู้ที่เป็นโรคติดต่ออันตราย หรือมีอาการที่อาจเป็นอุปสรรคในการร่วมพิธี จะถูกพิจารณาไม่ให้เข้าร่วมพิธีรับปริญญา แต่กรณีของบัณฑิตคนนี้ กลับไม่มีการแจ้งให้ทราบว่าเจ้าตัวเข้าข่ายเงื่อนไขดังกล่าวอย่างไร
- การยื่นอุทธรณ์ที่ควรเป็นความหวัง กลับถูกปฏิเสธอย่างไร้คำอธิบายเพิ่มเติม ยิ่งสร้างความคลุมเครือและความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
ผลกระทบต่อบัณฑิตผู้เสียสิทธิ บัณฑิตผู้ถูกตัดสิทธิระบุว่า ตนเสียทั้งวันลา รายได้ และค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการเตรียมตัวเข้าร่วมพิธีสำคัญในชีวิต แต่กลับต้องเผชิญกับการทำงานที่ล่าช้าและไร้ความชัดเจนจากมหาวิทยาลัย โดยเขากล่าวว่า
‘นี่คือความฝันของผมและครอบครัว แต่กลับถูกลิดรอนไปแบบไม่มีคำตอบ ผมรู้สึกเหมือนถูกเพิกเฉยต่อสิทธิและความสำคัญของเราในฐานะบัณฑิต’
ระบบที่ต้องถูกตั้งคำถาม
1.กระบวนการพิจารณาไม่โปร่งใส :
- มหาวิทยาลัยแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณากรณีบัณฑิตที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณสมบัติ แต่ไม่มีการเชิญบัณฑิตเข้าร่วมซักถามเพิ่มเติมหรือให้ชี้แจงด้วยวาจา
- กระบวนการนี้ถูกมองว่าไม่เปิดโอกาสให้บัณฑิตได้แก้ไขข้อเข้าใจผิด และตัดสินเพียงฝ่ายเดียว
2.การจัดการที่ล่าช้า :
- หากบัณฑิตคนนี้มีคุณสมบัติต้องห้ามจริง เหตุใดมหาวิทยาลัยถึงไม่แจ้งตั้งแต่ขั้นตอนแรก? การแจ้งล่าช้าไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายแก่บัณฑิต แต่ยังสะท้อนถึงความไม่มีประสิทธิภาพในระบบ
เสียงเรียกร้องจากสังคม
กรณีนี้กลายเป็นประเด็นที่สังคมตั้งคำถามถึงความยุติธรรมและความโปร่งใสของมหาวิทยาลัยขอนแก่น หลายคนเห็นว่าบัณฑิตผู้เสียสิทธิควรได้รับคำชี้แจงที่ชัดเจนและการเยียวยาจากความล่าช้า รวมถึงเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยปรับปรุงระบบพิจารณาให้มีความเป็นธรรมและโปร่งใส
‘เหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครอีก ผมหวังว่ามหาวิทยาลัยจะออกมารับผิดชอบ และให้คำตอบที่ชัดเจนกับผมและบัณฑิตทุกคน’ เจ้าตัวกล่าวทิ้งท้าย
ชาวโซเชียลรอคำชี้แจงจาก มข.
ในขณะที่กระแสดราม่าเรื่องนี้ยังร้อนแรงบนโลกออนไลน์ สังคมกำลังจับตาดูว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นจะออกมาชี้แจงอย่างไร และจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาเพื่อรักษาสิทธิของบัณฑิตคนอื่นในอนาคตหรือไม่
จากเอกสารประกาศของ มข. ที่แนบมา พบว่ามีการอ้างถึง ‘คณะกรรมการพิจารณา’ แต่กระบวนการที่เกิดขึ้นกลับมีช่องโหว่สำคัญ ได้แก่
1.ไม่มีเกณฑ์ที่ระบุชัดเจนว่าคุณสมบัติใดบ้างที่เข้าข่ายต้องห้าม
2.ขาดการสื่อสารที่โปร่งใสกับบัณฑิต ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องคาดเดาเองถึงสาเหตุ
3.ขาดความยืดหยุ่นในการพิจารณา เช่น การเชิญตัวผู้ที่ถูกพิจารณาให้ชี้แจงโดยตรง
เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่มหาวิทยาลัยต้องทบทวนระบบจัดการเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำรอยอีกในอนาคต!”