งานนี้มีตับแตก! กรรชัย จ่อแจ้งความกลับ ฟิล์ม รัฐภูมิ ถาม ‘ผมไม่เสียหายหรือ?’ เอาชื่อแอบอ้างเรียกเงิน
จากกรณี นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม รัฐภูมิ พร้อมด้วยนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช หรือทนายประมาณ เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิด 2 บุคคล คือ อี้ แทนคุณ และ หนุ่ม กรรชัย หลังนำชื่อ ฟิล์มรัฐภูมิ เผยแพร่ต่อสาธารณะชนทำให้เกิดความเสียหายนั้น
อ่านข่าว – ฟิล์ม รัฐภูมิ เดินหน้าเอาผิด หนุ่ม กรรชัย-อี้ แทนคุณ หมิ่นประมาททำคนเกลียดทั้งประเทศ
เมื่อวันที่ 31 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนุ่ม กรรชัย เปิดเผยในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ระบุว่า ก็แจ้งมา ถ้าคิดว่าถูกก็แจ้งมา ระบบกฎหมายอาญาเมืองไทยเป็นระบบกล่าวหา ถ้าเขาคิดว่า เขาเสียสิทธิก็แจ้งมา ตนรู้สึกว่า เอาชื่อตนไปแอบอ้าง ตนก็แจ้งในส่วนของตน ถ้าเขารู้สึกว่าตนไปทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ก็แจ้งมา
นอกจากนี้ หนุ่ม กรรชัย ระบุว่า “ได้ข่าวว่าคุณกรรชัย บอกว่า ตรวบใดที่หมายไปถึงมือเขาเมื่อไหร่ เขาจะแจ้งความสวนไปทันที ตับแตกกับไปข้างหนึ่ง เขาว่าแบบนั้น”
หนุ่ม กรรชัย กล่าวต่อว่า ที่อาจารย์ประมาณ บอกว่า “ฟิล์ม เป็นคนดี คนที่พูดจังไร ครับ พวกท่านเป็นคนดีครับ แล้วบอกว่าคนพวกนี้ไปหาแสง ผมว่าอาจารย์ประมาณไม่น่าจะหมายถึงผม เพราะส่วนใหญ่คนมักมาหาแสงกับผม
เพราะผมมีแสงในตัวอยู่แล้ว เชื่อว่าคนทั้งประเทศก็รู้ คนที่มาเกาะแกะกับผมต้องกลับไปถามตัวเอง ผมเชื่อว่าอาจารย์ประมาณ ไม่ได้หมายถึงผม”
“แต่ที่แน่ๆ ที่คุณฟิล์มไปแจ้งความ และมีชื่อผมวันนี้ ผมขอฝากผ่านรายการไปถึงฟิล์ม และอาจารย์ประมาณ เมื่อไหร่ที่ผมได้รับหมายเรียกจากตำรวจ ผมจะแจ้งความกลับทันทีในข้อหาแจ้งความเท็จ และกลั่นแกล้งให้บุคคลอื่นนั้นได้รับโทษทางอาญา เมื่อไหร่ที่รับ ผมสวนตับแตกเหมือนกัน โลกนี้ต้องมีความยุติธรรม
ถ้าจะบอกว่าไปทำให้ ฟิล์ม เสียหาย แล้วการที่เอาชื่อคน คนหนึ่งไปแอบอ้าง ไปเรียกเงิน 20 ล้าน คนคนนั้นเขาไม่เสียหายหรือ?”
ทั้งนี้ก็เป็นสิทธิของฟิล์ม ถ้าเขาคิดว่าสิ่งที่ผมพูดทำให้เขาเสียหาย เขาก็มีสิทธิไปแจ้งความ เป็นสิทธิโดยพื้นฐานของประชาชนคนไทย เพราะระบบอาญาไทย เป็นระบบกล่าวหา ถ้าได้รับความเสียหายจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ก็สามารถไปดำเนินคดี หรือแจ้งความต่อศาลได้ แต่ในขณะเดียวกัน หากไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ก็อาจจะมีโทษอื่นๆตามมา และที่สำคัญ
“ผมอยากให้คิดว่าถ้าวันนึง คุณถูกเอาชื่อไปแอบอ้างเรียกเงินคนอื่น แล้วก็ที่คุณออกมาพูดเพื่อปกป้องสิทธิตัวเอง แล้วคนคนนั้น กลับมาฟ้องและแจ้งความคุณ คุณคิดว่าเป็นธรรมหรือ? เชื่อว่ากฎหมายไม่ได้มีเอาไว้ให้ใครเอาไปเป็นเครื่องมือทำอะไรได้ ผมไม่ได้ไปก้าวล่วง อาจารย์ประมาณ และฟิล์ม แต่ทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี เพราะผมเป็นบุคคลที่มีส่วนได้เสีย ผมมีสิทธิที่จะปกป้องตัวเองเช่นกัน”