เผยเรื่องราวสุดรันทด! อดีตนักมวยสากลชาวปากีสถาน ลี้ภัยในไทยพร้อมครอบครัว

เป็นเรื่องราวที่มีการเเชร์ต่อในโลกออนไลน์ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sakda Kaewbuadee Vaysse ซึ่งเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือเหล่าชาวต่างชาติที่ติดคุกข้อหาหลบหนีเข้าประเทศ ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของผู็ลี้ภัยรายหนึ่งโดยระบุว่า

ถ้าใครที่กำลังท้อแท้ คิดว่าชีวิตช่างยากลำบากเหลือเกิน มองไปทางไหนก็ไม่มีทางออก ลองมาอ่านเรื่องที่ผมจะเล่านี้นะครับ

พร้อมเล่าเหตุการณืการช่่วยเหลือครอบครัวชาวปากีสถานอีกครอบครัวหนึ่ง โดยชายคนหนึ่ง (ผมขอเรียกเค้าว่า Boxer แทนชื่อจริง) เป็นนักมวยสากลที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของประเทศปากีสถาน ได้เป็นตัวแทนของประเทศเพื่อแข่งขันโอลิมปิค มีชีวิตที่ดี ร่ำรวยและโด่งดัง แต่สุดท้ายชีวิตถูกทำลายเพียงเพราะเค้านับถือศาสนาคริสต์

Boxer มีภรรยาและลูกชาย 3 คน ส่งลูกๆทั้งสามเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติ ใช้ชีวิตอย่างปกติในประเทศของเค้า แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อ 4 ปีก่อนได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน กลุ่มชาวมุสลิมได้รวมตัวกันไล่ล่าโจมตีและตามฆ่าคนที่นับถือศาสนาอื่น รวมถึงผลักดันให้ออกนอกประเทศ

Advertisement

เนื่องด้วยครอบครัว Boxer เป็นบุคคลมีชื่อเสียง จึงถูกหมายหัวเป็นอันดับต้นๆ ภรรยาของเค้าถูกโจมตีก่อนโดยการหักนิ้วมือ ต่อมาลูกชายคนกลางอายุ 15 ก็โดนจับตัดลิ้นและตัดริมฝีปากบนจนขาดแยกออกจากกัน. Boxer จึงต้องพาครอบครัวหนีออกนอกประเทศให้เร็วที่สุดก่อนที่จะมีใครเสียชีวิต

ต้องทิ้งค่ายมวยที่ตนเองเป็นเจ้าของ ต้องพาลูกชายทั้งสามออกจากโรงเรียนโดยฉับพลัน ต้องทิ้งเงินทั้งหมดที่มีในธนาคารเพราะไม่มีเวลาจะมาดำเนินการใดๆ และมองหาประเทศที่หลบภัยได้และสามารถเดินทางเข้าง่าย พวกเค้าจึงเข้ามาประเทศไทยในปี 2014

อย่างที่เคยพูดไปแล้วว่าพวกเค้าจะมีวีซ่าแค่ 3 เดือนเท่านั้น และการต่อวีซ่าครั้งหนึ่งก็ใช้เงินจำนวนมาก ช่วงแรกๆ Boxer ยังพอมีเงินติดตัวมาบ้าง จึงได้ออกไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ ส่วนภรรยาของเค้าเป็นคนที่มีความรู้ เลยตั้งศูนย์เล็กๆเพื่อช่วยเหลือและสอนหนังสือฟรีให้กับเด็กๆที่ลี้ภัยในกรุงเทพ โดยเธอจะทำหน้าที่เป็นครูสอนเองด้วย

Advertisement

ส่วนลูกชายคนโตของ Boxer อายุ 17 ปี ได้ขวนขวายพยายามเรียนต่อทางออนไลน์กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพจนจบปริญญาตรี แต่ท้ายสุดทางมหาวิทยาลัยก็ปฏิเสธที่จะให้ใบปรากาศนียบัตรกับน้องเค้า ด้วยเหตุผลที่ผมไม่สามารถพูดได้ตรงนี้

จนเงินของตัวเองหมดไปกับการช่วยเหลือคนอื่นๆ. Boxer จึงพาครอบครัวย้ายมาอยู่ห้องเช่าเล็กๆ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร บอกได้แค่ว่ามันเล็กมากๆ และทุกคนก็นอนแออัดกันในห้องนั้น เมื่อถึงคราววีซ่าหมดอายุ เค้าไม่มีเงินพอที่จะต่อวีซ่าให้ภรรยา จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมในขณะที่กำลังสอนหนังสืออยู่ โดยตั้งข้อหาหลบหนีเข้าเมืองและถูกขังอยู่ใน ตม. 2 ปี 6 เดือนแล้ว

ทุกครั้งที่ผมไปเยี่ยมผู้ต้องกัก จึงได้เจอ Boxer ที่หอบหิ้วอาหารมาเยี่ยมเมีย ซึ่งเค้าจะมาทุกวันจันร์-ศุกร์ไม่ได้ขาดตลอดเวลาสองปีกว่า บางครั้งที่เห็นเค้าไม่มีอาหารติดมือมาเลย ผมก็จะแบ่งของผมให้เค้าด้วยจนเรารู้จักคุ้นเคยกัน จนกระทั่งวันหนึ่งเค้ามาเยี่ยมเมียตามปกติ แต่เมียเค้าป่วยไม่สามารถลุกเดินออกมาจากห้องขังได้ เป็นแบบนี้หลายครั้งจนอาการเริ่มแย่ลง

ผมเห็น Boxer ยืนร้องให้จึงเข้าไปปลอบใจและถามว่าจะสามารถช่วอะไรได้มั้ย เค้าบอกว่าได้ติดต่อ จนท.ตม. เพื่อขอร้องให้ช่วยพาเมียเค้าไปส่งโรงพยาบาล แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ เพราะการที่จะพาผู้ต้องกักไป รพ. นั้น จะต้องมีเงินมาการันตีด้วยว่าสามารถจ่ายค่ารักษาได้ ไม่เช่นนั้นจะไม่พาออกไปเด็ดขาด

แม้แต่เงินประทังชีวิตไปวันๆ Boxer ยังไม่มีเลยแล้วเค้าจะหาเงินมาจากไหนได้ ผมจึงยื่นเงินให้เค้า 5พันบาท เพราะตอนนี้เห็นสภาพเมียเค้าแล้ว ช่างทรมานเหลือเกิน

วันต่อมาเมียเค้าก็ได้ไป รพ. ซึ่งหมอก็ได้ให้เจาะเลือดและรอฟังผลในสัปดาห์ถัดไป พอถึงเวลาฟังผล ผมก็ไปรออยู่ที่ รพ. เพื่อถ้าหากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก็จะได้ดูแลตรงนี้ได้ สรุปแล้วหมอก็ยังไม่สามารถให้ยาได้ บอกว่าผลเจาะเลือดคราวก่อนมันไม่ชัดเจน ต้องเจาะใหม่พร้อมกับทำการ X-Ray ด้วย ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ผมก็ตัดสินใจจ่ายให้อีกในครั้งนี้ซึ่งเป็นเงินหลายพัน

เสร็จแล้วหมอนัดมาฟังผลอีกทีในสัปดาห์ถัดไปอีก และถ้ารู้ผลแล้วจึงจะให้ยาได้ ผมอธิบายให้หมอฟังว่าได้เลื่อนนัดฟังผลเลือดมาเป็นครั้งที่สองแล้ว และคนป่วยไม่สามารถออกมาได้ง่ายๆตามนัด ขอให้รอฟังผลและรับยาวันนี้เลยได้มั้ย แต่หมอก็บอกว่าไม่ได้เพราะหมอเลิกงานแล้วไม่มีเวลารอผล ให้มาคราวหน้าแล้วกัน

เมียของ Boxer จึงต้องทนทรมานอยู่ในห้องขังอีก 1 สัปดาห์ จนถึงเวลานัดฟังผลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมก็ไปรอที่ รพ.ตั้งแต่ 8 โมงเช้าเหมือนทุกครั้ง รอจนถึง 10 โมงก็ยังไม่มา จึงโทรหา Boxer ถามว่าอยู่ไหนกันแล้ว จึงได้รับคำตอบว่าทาง ตม.ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ว่างพาไปส่งและให้รอต่อไป ผมก็รอจนกระทั่งเที่ยงตรงก็ยังไม่มาและหมอก็เลิกงานแล้ว ผมจึงโทรไปบอก Boxer ว่าไม่ต้องมาแล้ว
ผมซึ่งอยู่ที่ รพ. จึงไปทำการเลื่อนนัดให้ และก็โดนพยาบาลด่ามาอีกด้วยว่า คนไข้มาไม่ได้ทำไมไม่บอกก่อน ทำไมมาเลื่อนนัดเอาตอนเคาท์เตอร์ปิด ผมก็อธิบายไปว่าคนไข้ออกมาไม่ได้และผมก็เพิ่งรู้ตอนนี้เอง พยาบาลก็บอกว่ามันไม่ใช่ปัญหาของเค้า ผมนี่อยากจะร้องไห้ตรงนั้นเลย

สุดท้ายสู้กันพักนึงเค้าก็ยอมทำการเลื่อนนัดให้ โดยนัดครั้งต่อไปจะได้วันที่ 23 ก.พ. ปีหน้า ผมพยายามขอร้องให้ได้นัดเร็วกว่านั้นได้ไหม ก็ถูกปฏิเสธอีกโดยให้เหตุผลว่าหมอลาหยุดยาวจนถึงเดือน ก.พ. เลย และไม่สามารถเปลี่ยนหมอได้ เพราะใน รพ.นี้มีหมอคนนี้คนเดียวที่รู้เรื่องโรคนี้

ผมถามว่างั้นนัดเดือน ก.พ. เพื่อมาฟังผลเลือดและรับยาใช่หรือไม่ พยาบาลบอกว่าไม่ใช่ ผลเลือดไม่สามารถเก็บไว้ได้นานขนาดนั้น ดังนั้นต้องเจาะเลือดและ X-Ray ใหม่อีกครั้ง ผมนี่อึ้งไปเลย แล้วเงินที่ผมจ่ายค่าเจาะเลือดและ X-Ray คราวก่อนล่ะเพื่ออะไร? และมาคราวหน้าต้องจ่ายเงินใหม่อีกครั้ง อยากจะกรี๊ดดดลั่น รพ.

เสร็จจาก รพ. ผมก็เดินทางไป ตม. และได้เจอ Boxer รออยู่ที่นั่น เพื่อรอให้ผมมาคุยกับเจ้าหน้าที่เรื่องการนัดหมายครั้งต่อไป พอ Boxer รู้วันนัดครั้งต่อไปก็ปล่อยโฮทันที นี่ถ้า ตม.พาไปส่งตามนัดของ รพ. เมียเค้าก็อาจจะได้รับยาแล้วล่ะ

ผมก็ให้กำลังใจ Boxer ว่าเค้าไม่ได้อยู่ตามลำพังนะ ผมจะอยู่ตรงนี้ช่วยสู้ไปด้วยกันกับเค้า จะพยายามช่วยเหลือให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้

ตอนนี้ครอบครัว Boxer ไม่มีทางออกทางไหนเลย เมียก็ต้องอยู่ในห้องขังไปเรื่อยๆ นอกจากจะหาเงินค่าเดินทางบินกลับไปประเทศตนเอง ซึ่งถ้ากลับไปก็อาจตายกันทั้งครอบครัวอีกนั่นแหละ ทางมันตันทุกทางจริงๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image