น.ศ.วิศวะ แจงดราม่า ยันไม่มีปัญหากับโซตัส เรียนต่อได้แม้ไร้รุ่น แต่ขออย่าเกิดกับรุ่นน้องอีก

จากกรณีมีแม่ของนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ชื่อดังแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ โพสต์ข้อความเล่าเรื่องความทุกข์ใจของลูกและตนเอง จนมีผู้กดไลค์และแชร์ต่อจำนวนมาก โดยเล่าว่า จากการที่ลูกสามารถสอบเข้าเรียนคณะวิศวฯดังกล่าวได้ โดยลูกของตนมีความสามารถในการแข่งขัน จนต้องขออนุญาตอาจารย์ไปแข่ง แต่กลับถูกข่มขู่จากรุ่นพี่ หากไม่เข้าห้องเชียร์ จะถูกถอดรุ่น แม้จะชนะการแข่งขัน แต่ระหว่างที่เรียนกลับถูกเลือกปฏิบัติจากรุ่นพี่ในการทำกิจกรรมต่างๆ ของคณะ

ล่าสุดผู้ใช้เฟซบู๊ก Phuwadech Santhanapirom ซึ่งเป็นลูก และเป็นนักศึกษาคนดังกล่าว โพสต์ข้อความชี้แจง โดยระบุว่า

จากกรณีที่เมื่อคืน คุณแม่ของผมได้โพสต์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผมมาตลอด 4 ปีในชีวิตมหาลัย ผมเองก็เพิ่งทราบเรื่องโพสต์เมื่อตอนเที่ยง และไม่คิดเลยว่าจะเกิดการแชร์ออกไปจนเป็นวงกว้างขนาดนี้ ในโพสต์นี้ผมจึงจะขออธิบายเพิ่มเติมจากสิ่งที่เกิดขึ้นนะครับ

ก่อนอื่นเลยขออธิบายก่อนว่าผมไม่มีปัญหากับทางมหาวิทยาลัยหรือระบบ SOTUS แต่อย่างใด การที่ได้อยู่ที่นี่มา 4 ปี ก็ทำให้ผมได้เห็นทั้งข้อดีและข้อเสียของมัน และคิดว่าระบบของที่นี่มีข้อดีมากพอที่จะเก็บรักษาไว้ต่อไปครับ มันทำให้ผมเข้าใจได้ว่าทำไมคนที่จบจากที่นี่ถึงได้รักกันมากขนาดนี้

Advertisement

ข้อความที่อยู่ในโพสต์ของคุณแม่ของผม มีจุดที่ผิดพลาดจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงอยู่ 2 อย่าง

1. ก็คือการโดนยึดสร้อยเกียร์และเสื้อ Shop ของคณะ ซึ่งจริงๆ เป็นสิ่งที่จะได้รับในช่วงก่อนที่จะขึ้นปี 2 ครับ แต่ในกรณีของผมเกิดขึ้นในช่วงปี 1 เทอมแรก ทำให้ตอนนั้นยังไม่มีทั้งสองอย่างนี้ครับ แต่เป็นการคืนแฟ้มแทน (แฟ้มเป็นเหมือนตัวแทนของ นศ. ปี 1 ในคณะนี้ครับ) และ

2. กรณีที่เกิดขึ้นในงานปัจฉิม เป็นความจริงที่มีการบังคับเข้า และเลือกใส่เสื้อ Shop หรือเสื้อ น.ศ. ก็ได้ตามความสมัครใจ ซึ่งส่วนมากจะใส่อย่างแรกกัน เพราะมีกิจกรรมต่อในตอนบ่ายในคณะครับ แต่ไม่ได้มีการประกาศว่าคนที่ไม่เอารุ่นห้ามเข้าร่วมการบูมหรือร้องเพลงร่วมกับเพื่อนแต่อย่างใด

Advertisement

หลังจากที่ไม่ได้รุ่น ผมไม่มีปัญหากับการเรียนในมหาวิทยาลัยแต่อย่างใดครับ ไม่มีการเหยียดใดๆ เกิดขึ้น เพื่อนๆ พี่ๆ ที่รู้จักในภาควิชาส่วนมากทุกคนให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่กรณีของเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เข้าใจว่าเป็นการดูแลของกลุ่มๆ นึงโดยเฉพาะ จึงไม่มีผู้ที่มีอำนาจสามารถเข้ามาช่วยเหลือในด้านนี้ได้ครับ

ตอนที่โดนนั้น เพื่อนๆ หลายคนก็มาถามผมว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมก็ไม่อยากโพสต์อะไรมากมายเพราะกลัวจะเป็นเรื่องใหญ่ และผมยังศรัทธาในระบบนี้อยู่ ยังอยากเข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ อยู่ และยังมีความหวังว่าถ้าภายในเทอม 2 เราเข้าร่วมกิจกรรมตามปกติ และไปพูดคุยกับคนที่มีอำนาจในการช่วยเหลือ เขาอาจยอมให้เรากลับไปเข้าร่วมกิจกรรมก่อนขึ้นปี 2 ก็ได้

จนสุดท้ายพอขึ้นปี 2 มาแล้ว ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอเวลาผ่านมาพักนึงก็ทำให้ผมรู้ว่าถึงเราจะไม่ได้รุ่น แต่เพื่อนๆ พี่ๆ และอาจารย์ก็ไม่ได้มองว่าเราเป็นคนนอกแต่อย่างใด ต้องขอขอบคุณพวกเขามากจริงๆ และทำให้ผมเริ่มยอมรับได้ว่าการเรียนต่อในที่นี่โดยไม่มีรุ่น ก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายเท่าไร

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เพื่อนๆได้รุ่นเกียร์กันหมดแล้ว ตลอดเวลาที่เรียนมานี้ ผมก็ไม่เคยได้ยินคำว่า Entaneer57 อีกเลย ที่ผมอยากจะบอกก็คือ ในขณะที่หลายคนกำลังแสดงความยินดีกับเพื่อนๆ 600 กว่าคน ยังมีคนอยู่อีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกมองข้ามมาโดยตลอด ผมเคยไปแสดงผลงานที่หนึ่ง ก็มีรุ่นพี่ศิษย์เก่าเข้ามาดู และพอเขารู้ว่าผมมาจากคณะนี้ เขาก็ assume ว่าผมคือรุ่นเกียร์ไปแล้ว (และชวนคุยเรื่องเชียร์มากมาย ผมก็ออเออตามเขาไป โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรซักอย่าง)

ผมก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าเรื่องของผมมันจะยาวขนาดนี้ นึกว่าเขามองกันเป็นเรื่องปกติ สิ่งที่ผมกล่าวไปนั้นผมไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะสร้างความเสื่อมเสียให้กับคณะแต่อย่างใด แต่อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจดูกรณีของผมไว้เป็นตัวอย่าง และเพิ่มความใส่ใจในการดูแลนักศึกษาและรุ่นน้องของคุณมากกว่านี้ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดขึ้นอีกกับรุ่นน้องรุ่นต่อๆ ไปที่จะเข้ามาศึกษาภายในคณะ คุณอาจมองว่ามันคือเรื่องเล็ก แต่อย่าลืมว่าสำหรับเด็กที่เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกมหาวิทยาลัยมา การโดนแบบนี้มันเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหนสำหรับเขา

ในวันที่ผมโดนตัดรุ่น ผมไม่แน่ใจว่าเป็น 1 หรือ 2 วันก่อนขึ้นดอย และเนื่องจากต้องหันหน้าเข้ากำแพงตลอดเวลา ผมก็ไม่รู้ด้วยว่าผมกำลังคุยกับใครอยู่บ้าง ถ้าใครอยู่ในเหตุการณ์กับผมในวันนั้น รบกวนทักผมมาด้วยครับ เพราะตอนนี้น่าจะกำลังมีการสอบสวนถึงกรณีที่เกิดขึ้น และผมไม่อยากเป็นฝ่ายที่ออกมาพูดอยู่ฝ่ายเดียวครับผม ขอบคุณครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image