เมื่อเวลา 20.10 น. วันนี้ 3 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบนเฟสบุ๊คมีการเเชร์ภาพเเละข้อความระบุว่ามี เด็กทารกแรกเกิดเพศหญิงถูกนำมาทิ้งไว้ในห้องน้ำห้องที่ 3 วัดม่วงขาวแก้วพิกุล อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ล่าสุดสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับ รพ.ศรีมโหสถ ได้ส่งตัวเด็กมารักษาดูแลที่อาคาร 85 ปี ชั้น 3 หอผู้ป่วยวิกฤตกุมารเวชกรรม หรือ ไอซียู.เด็ก รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จึงประสาน กับ นพ.พนม สุทธิรัตน์ รอง ผอ.ฝ่ายแพทย์ เข้าตรวจสอบ พบเด็กหญิงไม่ทราบชื่อได้รับการดูแลอย่างดีจากแพทย์ – พยาบาลในการให้น้ำเกลือ ยาปฏิชีวนะ ให้ร่างกายได้รับความอบอุ่น
นพ.พนม กล่าวว่าได้รับเด็กที่ทาง รพ.ศรีมโหสถนำส่งต่อ เป็นทารกแรกเกิดเพศหญิง ชั่งน้ำหนักครั้งแรก 2,040 กรัม โดยมีผู้พบเด็กครั้งแรกในห้องน้ำใต้ถุนศาลาการเปรียญวัดม่วงขาวแก้วพิกุล หลังจากได้ยินเสียงเด็กร้องแล้วแจ้งเจ้าอาวาสทราบ จากนั้นได้นำส่งต่อจาก รพ.ศรีมโหสถมาที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรต่อมา
“จากการตรวจร่างกายเด็กหญิง พบว่าอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติคือ 36.3 องศาเซลเซียส พบภาวะเลือดข้นอาจมีภาวะติดเชื้อ ได้ให้น้ำเกลือ,ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ โดยได้ติดตามอาการอย่างใกล้ชิดในขณะนี้”ล่าสุดน้ำหนักลดลงเหลือ1,990 กรัม” นพ.พนม กล่าว
พ.ต.ท.วัชรชัย ศิริชัย สารวัตรเวรฯสภ.ศรีมโหสถ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุพบทารกหญิงแรกเกิด นายจำเริญ นำพา ผู้ใหญ่บ้านม่วงขาวนำผู้พบเห็นเด็กหญิงไม่ทราบชื่อ คือนางทุมมี สัจจา อายุ 62 ปี มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ก่อนที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ปราจีนบุรี และทาง รพ.ศรีมโหสถได้ส่งรักษาอาการต่อที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร คาดว่า น่าจะเป็นลูกจากแม่ที่ไม่มีความพร้อม หรือ อาจเป็น แรงงาน ต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามา แต่ไม่กล้าไปโรงพยาบาลเกรงกลัวความผิด” พ.ต.ท.วัชรชัย กล่าว
ด้านนางทุมมี สัจจา อายุ 62 ปี ผู้พบเด็กทารกหญิงคนแรก กล่าวว่า ช่วงเช้าประมาณ08.30 น.หลังไปงานบวชนาคเพื่อนบ้านเดินผ่านทางศาลาการเปรียญ ได้ยินเสียงเด็กร้องที่ใต้ถุนศาลาการเปรียญ จึงไปแจ้งพระฎีกาสมพร ถาวโร อายุ 36 ปี เจ้าอาวาสม่วงขาว พร้อมพามาตรวจสอบพบหน้าต่างเป็นบานเลื่อนกระจกใต้ถุนศาลาการเปรียญถูกเปิดทิ้งไว้ คาดว่าแม่ใจร้ายเข้ามาทางหน้าต่างดังกล่าว และที่ห้องน้ำห้องที่ 3 ประตูและไฟฟ้าถูกเปิดทิ้งไว้ ที่พื้นห้องน้ำติดกับโถชักโครก พบทารกหญิงเพิ่งคลอดใหม่ ๆ สายสะดือยังพันรอบเอว ไม่มีเสื้อผ้า กำลังร้องไห้เสียงใกล้หมดแรง จึงช่วยกับเอาผ้ามาห่อ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ รพ.ศรีมโหสถ รีบนำร่างทารกน้อยนำส่งโรงพยาบาล เนื่องจากลักษณะเด็กมีอาการอ่อนแรง จากนั้นทาง รพ.ศรีมโหสถ ได้นำตัวหนูน้อยส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
พระฎีกาสมพร ถาวโร อายุ 36 ปี กล่าวว่า ” หลังที่ได้มีญาติโยมพบเด็กทารก และข่าวเผยแพร่ผ่านโลกโซ้เชี่ยลเน็ตเวิร์ค มาคนมาตั้งชื่อเด็กหญิงหลายชื่อ แต่ตรงกับชื่อท้ายของทางวัดคือแก้วพิกุล เมื่อญาติโยมโทรศัพท์มาสอบถามก็เรียกชื่อดังกล่าว และทราบต่อมามีคนแสดงเจตจำนงค์ขอรับอุปการะเด็กหญิงดังกล่าวจำนวนมากด้วยเช่นกัน สำหรับแม่ของเด็กคาดว่าไม่ใช่คนในหมู่บ้าน โดยทางวัดไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้แต่อย่างใด”พระฎีกาสมพร กล่าว
