กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในโลกออนไลน์ไม่น้อย เมื่อเพจ “เรารักพัทยา” ได้แชร์คลิปวิดีโอการทะเลาะวิวาทระหว่างวินมอเตอร์ไซค์ และนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน บริเวณหน้าห้างดังย่านพัทยา โดยเป็นคลิปวิดีโอของฝรั่งรายหนึ่ง ที่ถูกยึดกุญแจรถจักรยานยนต์ไว้ ฝรั่งคนดังกล่าวพยายามที่จะนำรถออกไป ก่อนจะมีวินมอเตอร์ไซค์พุ่งเข้ามาเตะที่หน้าของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว แล้วเอามือเข้าไปชกซ้ำอีกครั้ง
ขณะที่คนรอบข้างวิพากษ์วิจารณ์กันว่า “ต้องเจอแบบนี้ ไม่ฟังหรอก” ไม่นานนักก็มีชายขับรถจักรยานยนต์คันหนึ่งเข้ามาและพูดว่า “ใครไปทำอะไรอีก อย่าไปทำเขา โลกโซเชียลมันสูง”
หลังจากคลิปดังกล่าวได้เผยแพร่ไป ก็มีคลิปวิดีโอขนาดยาว ออกมาอีกหนึ่งคลิป สะท้อนอีกมุมหนึ่งของเหตุการณ์ เริ่มตั้งแต่การโต้เถียงกันระหว่างฝรั่งนักท่องเที่ยว และตำรวจ ที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคืนกุญแจให้ โดยมีปากเสียงกันค่อนข้างรุนแรง ท่ามกลางพยาน จำนวนมาก ซึ่งเจ้าของคลิปเผยว่า ไม่ทราบสาเหตุที่ถูกจับ แต่ขอดูใบอนุญาตแล้วไม่มี ต้องการให้ตำรวจเปิดรถให้ และต้องการนำรถออกไป มีพฤติกรรมก้าวร้าว” โดยในคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้น นักท่องเที่ยวได้บอกให้เจ้าหน้าที่นำมือออกไปจากรถของเขา
ทั้งนี้มีผู้เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของนักท่องเที่ยวและตำรวจ มอเตอร์ไซค์ไม่น่าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะไม่ใช่หน้าที่
ล่าสุด เพจเรารักพัทยา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม โดย ร.ต.อ.(ญ)ชนิกานต์ เผื่อนพินิจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้ออกมาเปิดเผยว่าในวันที่เกิดเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้ทำการกวดขันวินัยจราจร ที่บริเวณด้านหน้าสถานี และได้ออกใบสั่งให้กับนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน แต่นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวกลับไม่ยินยอม พยายามจะลากรถจยย.กลับเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใส่เครื่องบังคับล้อไว้ ซึ่งหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่จราจร ได้นำตัวนายสุนทร แสนคำ อายุ 48 ปี วินจยย.รับจ้างหน้าวิวทะเลคอนโดมิเนียม 6 มาโดยนำคลิปมาประกอบหลักฐานขณะที่ทำร้ายนักท่องเที่ยว ให้แจ้งข้อกล่าวหาเปรียบเทียบปรับ ในข้อหาทำร้ายร่างกายชาวต่างชาติ
ด้านนายสุนทร วินจยย.รับจ้างผู้ก่อเหตุในคลิปออกมายอมรับผิดว่าสาเหตุที่ทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ จากการที่นักท่องเที่ยวด่าทอตน ด้วยคำหยาบเป็นภาษาต่างประเทศ ซึ่งก็ขอแสดงความรับผิดขอโทษสังคมที่สร้างความเสื่อมเสียในครั้งนี้ด้วย อยากให้สังคมให้อภัยด้วย
