“ติเต้” และกัปตันทีม “แซมบ้า” ทั้ง 16

ท่ามกลางสถานการณ์ช็อกโลกที่บรรดาทีมใหญ่ทีมเต็งต่างชิงตกรอบ ฟุตบอลโลก 2018 ยอดทีมเต็งตลอดกาลอย่าง “แซมบ้า” บราซิล ยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

แม้ว่าจะทุลักทุเลอยู่บ้างในบางนัด แต่ฟอร์มของทีมแซมบ้าจนถึงตอนนี้ก็ทำให้เกจิหลายสำนักยกให้พวกเขาเป็นเต็งหนึ่ง

เบื้องหลังความสำเร็จประการสำคัญของอดีตแชมป์โลก 5 สมัย คงต้องยกให้ ติเต้ ที่เข้าไปรับงานกุนซือตั้งแต่ปี 2016 และช่วยเปลี่ยนบราซิลให้เป็นทีมที่ใช้ประโยชน์จากตำแหน่งต่างๆ ได้เต็มที่ ทั้งแนวรุกที่น่าเกรงขาม และแนวรับที่แข็งแกร่ง เป็นทีมแซมบ้ายุคที่อาจจะไม่ได้เล่นฟุตบอลสวยงามที่สุด แต่เน้นผลการแข่งขันที่จะทำให้ทุกคนพอใจ

Advertisement

หนึ่งในจุดเด่นสำคัญอีกประการของติเต้คือ เขาเป็นคนไม่ยึดติดกับนักเตะคนใดคนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่ง กัปตันทีม ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นตำแหน่งสำคัญและศักดิ์สิทธิ์

อย่างแมตช์ล่าสุดกับ เม็กซิโก ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย คนที่สวมปลอกแขนนำทีมลงสนามคือ ติอาโก้ ซิลวา ซึ่งเพิ่งจะได้เป็นกัปตันทีมหนที่ 3 ตั้งแต่ติเต้มาคุมทีม

ติอาโก้ ซิลวา

และเอาเข้าจริงๆ ตั้งแต่อดีตกุนซือโครินเธียนส์วัย 57 ปี เข้าไปรับตำแหน่ง เขาโรเทตปลอกแขนกัปตันให้กับนักเตะไม่ซ้ำหน้ากันถึง 16 คนแล้ว!

Advertisement

เกือบทั้ง 16 คนนั้นต่างก็ติดทีมชาติชุดลุยเวิลด์คัพหนนี้ ขาดเพียง 2 คนคือ โรบินโญ่ แข้งตัวเก๋าที่เล่นอยู่ในตุรกี กับ ดานี่ อัลเวส แบ๊กขวาชื่อดังซึ่งมีปัญหาบาดเจ็บก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น

ธรรมเนียมการเวียนปลอกแขนของแซมบ้าเริ่มตั้งแต่เนย์มาร์ สตาร์ดังของทีมประกาศทิ้งตำแหน่งกัปตันทีมถาวรที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่ หลังจากประสบความสำเร็จพาทีมคว้าเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครรีโอเดจาเนโร เมื่อ 2 ปีที่แล้ว

โดยบอลโลกหนนี้ ซิลวาได้ทำหน้าที่ 2 ครั้งในเกมกับคอสตาริกาและเม็กซิโก ส่วนนัดเปิดสนามกับสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหน้าที่ของ มาร์เซโล่ กองหลังรีล มาดริด

มิรันด้า กองหลังอินเตอร์ มิลาน ซึ่งได้รับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ในเกมเตะกับเซอร์เบีย ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้สวมปลอกแขนให้กับทีมที่มีกัปตันมากมาย และถ้าได้ทำหน้าที่นี้ในรอบชิงชนะเลิศ เพื่อพาทีมสู่ตำแหน่งแชมป์คงเป็นอะไรที่สุดยอดมาก แต่ต่อให้ตนไม่ได้เป็นกัปตันทีม และทีมได้แชมป์ ก็ยังคงดีใจสุดสุดเช่นกัน


กัปตันทีมชาติบราซิลภายใต้การคุมทีมของติเต้
4 ครั้ง – ดานี่ อัลเวส
3 ครั้ง – ติอาโก้ ซิลวา, มิรันด้า
2 ครั้ง – มาร์เซโล่
1 ครั้ง – เนย์มาร์, วิลเลียน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, คาเซมิโร่, เรนาโต้ อกุสโต้, เปาลินโญ่, มาร์กินญอส, ฟิลิปเป้ ลุยส์, กาเบรียล เชซุส, แฟร์นันดินโญ่, อลิสซอน เบ็คเกอร์, โรบินโญ่


นโยบายโรเทตกัปตันทีมของติเต้สร้างความฉงนให้กับคนในแวดวงลูกหนังไม่น้อย โดยมีฟีดแบ๊กออกมา 2 ด้านที่แตกต่างกัน

ทางหนึ่งมองว่าการไม่มีผู้นำทีมที่แท้จริงทำให้ทีมขาดความเป็นเอกภาพ อาจทำให้คนมีอีโก้ไม่รู้สึกเกรงใจกัน ไม่ฟังเสียงกัน เพราะมองว่าต่างเท่าเทียมกัน

แต่อีกทางก็มองว่าเป็นการให้เกียรตินักเตะทุกคนอย่างเท่าเทียม ช่วยลดแรงกดดันไม่ให้คนใดคนหนึ่งต้องรู้สึกแบกความรับผิดชอบหากทีมล้มเหลว และการลงสนามแต่ละนัด เจอคู่แข่งที่แตกต่างกัน การมีผู้นำที่มีคาแรกเตอร์ต่างกันย่อมสามารถปรับคาแรกเตอร์ของทีมได้ตามสถานการณ์

ต้นกำเนิดธรรมเนียมแปลกๆ ของติเต้นี้เกิดขึ้นด้วยสถานการณ์บังคับสมัยเขาคุมทีมโครินเธียนส์ในปี 2012 เนื่องจากตอนนั้น กัปตันถาวรที่เขาวางตัวไว้ทั้ง 3 คนต่างย้ายทีมไปหมด ติเต้จึงตัดสินใจให้ลูกทีมแบ่งเบาภาระกันเพื่อไม่ให้กดดันจนเกินไป และกลายเป็นว่าโครินเธียนส์สามารถก้าวไปคว้าแชมป์โกปา ลิเบร์ตาโดเรส รวมถึงสโมสรโลกได้ในปีนั้น

นโยบายเดียวกันนี้จะใช้ได้ผลกับบราซิลหรือไม่ คงต้องดูปลายทางสุดท้ายของทีมแซมบ้าในฟุตบอลโลกหนนี้อีกที

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image