ทีมชาติ อังกฤษ ลงสนาม ฟุตบอลโลก 2018 พบกับ โคลอมเบีย เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยไม่มี ฟาเบียน เดลฟ์ แบ๊กซ้ายจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากเดลฟ์ต้องบินกลับบ้านเพื่อให้กำลังใจภรรยา นาตาลี คลอดลูกตามกำหนดวันที่ 30 มิถุนายน
แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือสิงโตคำราม ไม่ได้ขวางการตัดสินใจดังกล่าว ออกจะสนับสนุนด้วยซ้ำ โดยกล่าวว่า “ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่สำคัญกว่าฟุตบอล บางคนอาจจะบอกว่าโอกาสการได้เล่นในบอลโลกหาไม่ได้ง่ายๆ แต่เวลาที่ลูกเราเกิดก็มีแค่ครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าเซาธ์เกตจะไม่อยากให้นักเตะสำคัญของตัวเองกลับไปทันช่วยทีมในรอบต่อๆ ไป เพราะแอบแนะนำแบบติดตลกว่า ให้ซื้อแกงกะหรี่ให้ภรรยาทานเพื่อเร่งเวลาคลอดลูกด้วย
อีกด้านหนึ่ง อันเดรียส กรันควิสต์ กัปตันทีมชาติสวีเดน คู่แข่งในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของเมืองผู้ดี ตัดสินใจว่าอาจจะไม่เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อให้กำลังใจภรรยาคลอดลูกคนที่ 2 เพราะอยากอยู่ช่วยทีมไวกิ้งหักด่านสิงโตเข้าสู่รอบรองชนะเลิศให้ได้มากกว่า
ด้าน บรีล เอ็มโบโล่ กองหน้าทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ โชคดีกว่าทั้งคู่สักหน่อย เพราะบินกลับบ้านเกิดทันลุ้นภรรยาคลอดลูก แล้วยังกลับไปทันช่วยทีมแดนนาฬิกาเตะรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับไวกิ้ง ซึ่งเจ้าตัวให้นิยามว่า นี่เป็น 24 ชั่วโมงที่งดงามที่สุดในชีวิตของตัวเอง
การตัดสินใจที่แตกต่างกัน นำมาซึ่งคำถามชวนเครียดว่า เมื่อถึงเวลาสำคัญที่ต้องเลือกระหว่างการรับใช้ประเทศชาติในการแข่งขันกีฬาระดับโลก กับการร่วมเป็นสักขีพยานการถือกำเนิดของลูกเราแล้ว ควรจะเลือกทางไหนดี?
บางคนยังนับว่าโชคดี อย่างกรณีของ แอนดี้ เมอร์เรย์ นักเทนนิสมือ 1 ของสหราชอาณาจักร ซึ่งเคยประกาศไว้ว่าจะถอนตัวจากการแข่งขันแกรนด์สแลม ออสเตรเลียน โอเพ่น ในปี 2016 ทันที ถ้าภรรยา คิม คลอดลูกคนแรกของทั้งคู่ก่อนกำหนด
เมอร์เรย์กล่าวว่า ตนยินดีถอนตัวอย่างไม่ลังเล ต่อให้ได้แชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น แต่กลับพลาดช่วงเวลาสำคัญอย่างตอนที่ลูกคลอด คงเป็นเรื่องน่าผิดหวังมากๆ
สุดท้ายเมอร์เรย์ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ หลังจากพ่ายให้ โนวัก โยโควิช ไปอย่างน่าเสียดายก็รีบจับเครื่องบินเที่ยวแรกสุดบินตรงกลับบ้านทันเวลาพอดี
กรณีคล้ายๆ กันเกิดขึ้นกับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักหวดชาวสวิสซึ่งพร้อมถอนตัวจากแกรนด์สแลม เฟร้นช์ โอเพ่น ปี 2014 ถ้าภรรยาเกิดเจ็บท้องคลอดพอดี โดยให้เหตุผลชัดเจนว่า “ผมเล่นเทนนิสมาเยอะมากแล้ว ถ้าจะพลาดสักแมตช์หรือสักทัวร์นาเมนต์ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรเลย”
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนจะเลือกทางเดียวกันเสมอไป เพราะต่างคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง เช่น ร็อบ ครอส แชมป์โลกปาเป้าชาวอังกฤษบอกว่า ภรรยาไม่ยอมให้เขาถอนตัวจากการแข่งขันรอบคัดเลือกเวิลด์ แมตช์เพลย์ เพื่อมาเฝ้าเธอคลอดลูกคนที่ 3
ขณะที่ เดวิด เวียร์ นักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งทีมเมืองผู้ดี ไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนภรรยาตอนคลอดลูกคนที่ 4 เพราะติดภารกิจแข่งขันพาราลิมปิก 2016 ที่นครรีโอเดจาเนโร
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ชายแล้ว การตัดสินใจในลักษณะนี้ยังสามารถรอจนถึงนาทีสุดท้ายได้ แต่ไม่ใช่สำหรับนักกีฬาหญิงที่ต้องเป็นคนคลอดเองอย่างแน่นอน
สิ่งที่ว่าที่คุณแม่ทำได้จึงเป็นการแข่งขันให้ถึงจุดที่ร่างกายยังไหวและไม่เป็นอันตรายกับลูกในท้อง จากนั้นจึงไปเตรียมตัวคลอดให้เป็นเรื่องเป็นราว
เช่น สเตซี่ ลูอิส โปรกอล์ฟสาวอดีตมือ 1 ของโลกชาวอเมริกันซึ่งกำลังตั้งท้องลูกคนแรก และวางแผนลงแข่งขันสักระยะก่อนพักยาว
แต่ตัวอย่างชัดเจนที่สุดจากกรณีนี้คงต้องยกให้ เซเรน่า วิลเลียมส์ ยอดนักเทนนิสสาวชาวอเมริกัน ซึ่งคว้าแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น เมื่อปีที่แล้วขณะที่กำลังตั้งท้อง
โดยไม่มีใครรู้เลยนอกจากคนใกล้ชิดไม่กี่คน ก่อนที่เธอจะคลอดลูกสาวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยแชมป์ดังกล่าวเป็นแกรนด์สแลมหญิงเดี่ยวรายการที่ 23 ทำสถิติสูงสุดของยุคโอเพ่น
ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัย
