“ก็อต” จตุภูมิ ชินวงค์ จอมพลังหนุ่มวัย 25 ปีจากนครราชสีมา ดีกรีอันดับ 4 โอลิมปิกเกมส์ 2 สมัยเมื่อปี 2012 ที่ประเทศอังกฤษ และเมื่อปี 2016 ที่ประเทศบราซิล คว้าเหรียญทองแดงยกน้ำหนัก รุ่น 77 กก.ชาย หลังยกทำสถิติน้ำหนักรวมได้ 341 กก. ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่จาการ์ตา อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็กซ์โปร ฮอลล์ 1 กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม
ท่าสแนทช์ จตุภูมิ เรียกเหล็กครั้งแรก 150 กก. ยกผ่านฉลุย ครั้งที่สองเรียกเหล็ก 154 กก. ยกผ่านได้อีก แต่ครั้งที่สามเรียกเหล็ก 157 กก. ยกไม่ผ่าน จากนั้นท่าคลีนแอนด์เจิร์ก จอมพลังก็อตเรียกน้ำหนัก 183 กก. ยกผ่านไม่มีปัญหา และครั้งสองยกผ่านที่ 187 กก. แต่ครั้งที่สามเรียกเหล็กที่ 195 กก. หวังแซงขึ้นไปคว้าเหรียญทอง แต่ยกไม่ขึ้น ทำให้น้ำหนักรวม 341 กก. คว้าเหรียญทองแดงเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันหลังจากเคยทำได้ครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อนที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้
ขณะที่เหรียญทอง โจ จอน วี นักยกเหล็กจากเกาหลีเหนือ ท่าสแนทช์ 155 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 193 กก. และน้ำหนักรวม 348 กก. ส่วนเหรียญเงิน คิม วูแจ จอมพลังจากเกาหลีใต้ ท่าสแนทช์ 160 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 187 กก. และน้ำหนักรวม 347 กก. ด้าน “เปียว” พรชัย ลบศรี จอมพลังหนุ่มวัย 28 ปีจากร้อยเอ็ด ได้อันดับ 7 ท่าสแนทช์ 146 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 171 กก. และน้ำหนักรวม 317 กก.
หลังการแข่งขัน “ก็อต” จตุภูมิ กล่าวว่า รู้สึกว่าทำได้ดีแล้ว แต่ยอมรับว่าซ้อมมาน้อย แต่ก็พอใจกับผลงาน เพราะตอนซ้อมมายกได้ราว 160-190 กก. ซึ่งก็ดีใจที่สามารถคว้าทองแดงเอเชี่ยนเกมส์ได้เป็นสมัยที่ 2 ส่วนอนาคตก็จะพยายามฝึกซ้อมให้เต็มที่ เพื่อมองไปถึงการคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
“มาดามบุษ” นางบุษา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วนักยกเหล็กเกาหลีเหนือยกไม่ถูกต้อง เพราะขาไม่นิ่ง ปลายเท้ายังยกอยู่ แต่กรรมการกดไฟผ่าน ทำให้ตัวเองในฐานะรองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักแห่งเอเชียก็ได้ไปต่อว่ากรรมการที่กดไฟให้ผ่านแล้ว แต่ก็ถือว่าจตุภูมิสามารถสู้ได้อย่างเต็มที่แล้ว
