หลังจากที่ทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 23 ปี ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชโย่ง” นายวรวุธ ศรีมะฆะ ตกรอบแรกในการแข่งขันฟุตบอล กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยการมีเพียง 2 แต้ม จากการเสมอ กาตาร์ 1-1, บังกลาเทศ 1-1 และแพ้ อุซเบกิสถาน 0-1 ซึ่งเป็นการตกรอบแรกใน 24 ปี ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบอลอย่างกว้างขวางถึงผลงานของแข้งหนุ่มไทยชุดนี้
ขณะเดียวกัน “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลงานของทีมชาติไทยชุดนี้ผ่านทางรายการ “เป็นเรื่องเป็นข่าว” แพร่ภาพออกทางช่องพีพีทีวี ดำเนินรายการโดย ประภาพร เชาวนาศิริ โดย พล.ต.อ.ดร.สมยศ ระบุว่า ส่วนตัวแล้วรู้สึกเสียใจเหมือนกับคนไทยทั้งประเทศ มีข้อสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมโค้ชโย่งไม่ใช้โควต้านักเตะอายุเกิน 23 ปี ซึ่งใช้ได้ 3 คน
พล.ต.อ.ดร.สมยศกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามเมื่อให้อำนาจทำทีมแล้วก็เป็นสิทธิ์ของโค้ชจะตัดสินใจ ทั้งนี้สัปดาห์หน้า สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะเชิญ “โค้ชเฮง” นายวิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคทีมชาติไทย และโค้ชโย่งเข้ามาสรุปผลงานกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการตกรอบแรก เพราะถ้ามีการลาจากกันก็น่าจะเป็นการจากกันด้วยดี
บิ๊กอ๊อด กล่าวอีกว่า ในนามของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต้องขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเอเชี่ยนเกมส์ และอยากจะขอโอกาสกับแฟนบอล ไปแก้ตัวในศึกชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” โดยจะทำทุกวิถีทางให้ทีมชาติไทยคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ติดกันให้จงได้
ส่วนกรณีที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ วางแผนผลักดันทีม 16 ปี เต็มที่ ซึ่งชุดนี้อยู่ระหว่างเก็บตัว ที่ประเทศสเปน หวังจะพัฒนาสู่ฟุตบอลโลก 2026 นั้น พล.ต.อ.ดร.สมยศ กล่าวว่า ในปีดังกล่าว หรือ 8 ปี ข้างหน้า รอบสุดท้ายเพิ่มเป็น 48 ทีม และโซนเอเชียจะได้โควต้า 8 ทีม จึงถือว่ามีโอกาสมาก แต่สมาคมฯ ก็ตั้งความหวังกับทุกชุดอยู่แล้ว
