การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น รอบรองชนะเลิศ กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่จาการ์ตา อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็กซ์โป กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม โดยมีนักชกไทยทะลุผ่านเข้ามาถึงรอบตัดเชือกนี้ 6 รุ่นจากที่ส่งเข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 10 รุ่น
รุ่นฟลายเวท 52 กก.ชาย “ดัง” ยุทธพงศ์ ทองดี กำปั้นหนุ่มวัย 25 ปี ฉายามวยไทย “ดัง ส.เพลินจิต” ขึ้นสังเวียนในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งแรก รัวหมัดใส่ โรเก้น ลาดอน นักชกวัย 24 ปี จากฟิลิปปินส์ ดีกรีตัวโอลิมปิกเกมส์ 2016 และเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลกปี 2015 ก่อนปลายคิ้วขวาแตกช่วงยกสาม แต่กรรมการปล่อยให้ชกต่อ ก่อนที่นักชกฟิลิปปินส์อาศัยการออกหมัดเน้นเข้าเป้า ทำให้ครบ 3 ยก ยุทธพงศ์ แพ้คะแนนไป 0-5 ไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ แต่ยังคว้าเหรียญทองแดงปลอบใจ
หลังการชก “ดัง” ยุทธพงศ์ กล่าวว่า ก่อนอื่นเลยต้องขอโทษคนไทย และต้องขอบคุณทุกคนที่ติดตาม วันนี้ก็ทำเต็มที่สุดความสามารถแล้ว แต่ก็ไม่สามารถผ่านเข้าชิงได้ ไฟต์นี้ยอมรับว่า ออกหมัดไม่ค่อยตรงเป้ามากนัก และกังวลจังหวะแผลแตกของคู่แข่ง จึงต่อยย้ำๆ เล็งเป้าตรงแผล จนกลายเป็นประมาทโดนเขาฉาบฉวยชกคืนเข้าเป้า ซึ่งคู่แข่งเขาแผลแตกเยอะ แต่กรรมการไม่ยอมเช็กอะไรเลย ยอมรับว่าผิดหวัง เพราะตั้งเป้าจะคว้าเหรียญทอง แต่ผู้แพ้ก็คือผู้แพ้ ไม่มีข้อแก้ตัว
ต่อมาในรุ่นไลท์เวท 60 กก.ชาย “กี้” รุตชการญ์ จันทร์ตรง นักชกหนุ่มดาวรุ่งวัย 22 ปี หรือฉายามวยไทย “เรือหลวง นาวีอันดามัน” ขึ้นสังเวียนประเดิมเอเชี่ยนเกมส์ครั้งแรกเช่นกัน แต่ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่ง และการออกหมัดจะแจ้งของ ชุนกอร์ อับดูราซูลอฟ กำปั้นดาวรุ่งวัย 20 ปีจากอุซเบกิสถานได้ ก่อนที่สุดท้ายพ่ายคะแนนไปแบบเอกฉันทน์ 0-5 ทำให้รุตชการญ์กระเด็นตกรอบตัดเชือกอีกเช่นกัน แต่ยังได้เหรียญทองแดงไปครอง
หลังการชก “กี้” รุตชการญ์ กล่าวว่า การชกวันนี้ก็ถือว่าได้ทำเต็มที่แล้ว แต่ก็แพ้ไป ซึ่งตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าแพ้เพราะอะไร เนื่องจากคิดว่าตัวเองออกหมัดได้แม่นกว่า โดยต้องขอบคุณพี่น้องชาวไทยที่คอยเป็นกำลังให้ และต้องขอบคุณสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศฯ ส่วนอนาคตก็อยากที่จะคว้าโควต้าไปเข้าร่วมสังเวียนในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และก็จะพยายามทำต่อไปให้เต็มที่ ตอนนี้ก็กำลังรอบรรจุเป็นทหารเรืออยู่ เพราะส่วนตัวแล้วก็อยากบรรจุเป็นทหารเรืออยู่แล้ว
