รักบี้ผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ หลังผลงานเอเชี่ยนเกมส์ไม่เข้าเป้า ดึงโค้ชฟิจิคุมทีมชาย

พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า จากผลงานของทัพนักรักบี้ทีมชาติไทยชุดเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ที่ไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าทุกคนจะได้ทุ่มเทและสู้อย่างสุดความสามารถแล้วก็ตาม แต่มันยังมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ต้องเร่งแก้ไข โดยทีมชายจบอยู่อันดับที่ 8 ส่วนทีมหญิงได้อันดับที่ 4 จากเป้าหมายที่ตั้งใจไว้คือ คว้าเหรียญทองแดงกลับมา ส่งผลให้ตัวเองและคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ มีความเป็นห่วงและกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอีก 4 ปีข้างหน้าศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหังโจว ประเทศจีน และกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ กีฬารักบี้ของไทยซึ่งเคยเป็นที่นิยมในอดีตจะลดความนิยม ดังนั้นเพื่อให้การทำงานทุกอย่างมีประสิทธิ์ภาพมากยิ่งขึ้น ตัวเองจึงได้สั่งผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ทั้งชายและหญิงเป็นการด่วน เพื่อต้องการให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะการวางระบบใหม่ทั้งหมด

พ.ต.ท.กุลธนกล่าวอีกว่า ได้ทำหนังสือเชิญ “โค้ชเล็ก” สุภรัตน์ อัลภาชน์ อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย ที่มีประสบการณ์และความสามารถค่อนข้างสูง เข้ามาพัฒนาและดูแลทีมหญิงอย่างเต็มตัวในการแข่งขันระดับนานาชาติจากนี้ไป พร้อมผู้ช่วยโค้ช คือ พ.อ.จุฑา รังสิญานนท์, ชวิอรรถ คล่องตรวจโรค และ ธีรศักดิ์ สิทธิพรวัฒนากุล เนื่องจากผลงานที่ผ่านมาของโค้ชเล็ก ค่อนข้างคลุกคลีและรู้ดีว่า ทีมหญิงจะต้องเสริมเติมแต่งในเรื่องอะไรบ้าง แถมเรื่องวินัยและความเข้มข้นในการฝึกสอนเชื่อใจได้ ส่วนเฮดโค้ชทีมชายกำลังเจรจาติดต่อหายอดโค้ชจากประเทศฟิจิ ซึ่งถือว่า เป็นชาติมหาอำนาจในกีฬาชนิดนี้เข้ามาทำหน้าที่แบบเต็มเวลา พร้อมมอบหมายให้หน้าที่อีกตำแหน่งคือ ประธานพัฒนาฝ่ายเทคนิคเพื่อวางรากฐานต่างๆ ทั้งระบบไปในแนวทางเดียวกันทั้งชายและหญิง เพราะเวลานี้กีฬารักบี้พัฒนาไปไกลมาก ไม่ใช่รูปแบบเดิมแต่จะต้องมีการผสมผสานของวิทยาศาสตร์การกีฬาและวางแผนพัฒนาร่วมกันจึงจะไปสู่เป้าหมายที่ดีได้

“เมื่อผลงานในเอเชี่ยนเกมส์ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เราต้องผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ทั้งทีมชายและหญิง โดยจะดึงตัวโค้ชจากประเทศฟิจิเข้ามาวางแผนให้ใหม่ทั้งระบบ เพื่อต้องการให้การพัฒนาแบบยั่งยืนและผลงานทุกอย่างจะต้องสัมผัสได้ ส่วนทีมหญิงจะให้นายสุภรัตน์ อัลภาชน์ ดูแลอย่างเต็มที่ เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพและประสบการณ์ที่ผ่านมา จากนั้นจะมีคณะกรรมการคอยติดตามผลงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกอย่างจะต้องให้เวลาและเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน” พ.ต.ท.กุลธน กล่าวทิ้งท้าย    

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image