การแข่งขันฟุตบอล “โตโยต้า ลีกคัพ” รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันที่ 19 กันยายน คู่ระหว่าง “สวาดแคท” นครราชสีมา พบกับรองแชมป์เก่า “กว่างโซ้งมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนามศุภชลาศัย
เริ่มเกมทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันทันที แต่ก็ยังไม่เร่งจังหวะของเกมมากนัก น.11 แฟนบอล สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ก็ได้เฮก่อน เมื่อ โรซิม่า บิล ได้บอลกลางประตูบริเวณหัวกะโหลกไหลเข้าเขตโทษออกทางซ้ายให้ ชัยวัฒน์ บุราณ ที่เติมขึ้นมาสปีดเข้าไปยิงเสาไกลตุงตาข่ายให้ทีมนำก่อน 1-0
หลังจากเสียประตู นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พยายามที่จะเปิดเกมใส่แต่เจาะแนวรับกว่างโซ้งไม่ได้ น.20 เกือบที่เสียประตูที่สอง เมื่อ โรซิม่า บิล ได้บอลก่อนเข้าเขตโทษเยื้องทางขวาลากตัดเข้าในและซัดที่เสาแรกแต่ ทศพร ศรีเรือง นายด่านสวาดแคทไม่เผลอทุบออกไปได้ทัน
น.35 เป็นโอกาสของ นครราชสีมา มาสด้า เมื่อ ยายาร์ คูนาธ ได้ซัดบนเส้น 18 หลาเยื้องทางขวา แต่โดนบอลไม่ดีลอยโด่งมาเสาแรกเข้าทางของ อัสซัมเซา พักอกหนึ่งจังหวะก็จักรยานอากาศ แต่บอลข้ามคานออกไป
น.42 สิงห์ เชียงราย เกือบจะบวกเม็ดที่สองเมื่อ ศิวกรณ์ เตียตระกูล จ่ายบอลให้ โรซิม่า บิล หลุดเข้าเขตโทษทางขวาและได้ซัด แต่ดันยิงข้ามคานออกไปน่าเสียดาย
ท้ายเกม สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด บุกหนัก และเข้าสู่ทดเจ็บ 2 นาทีทั้งสองทีมก็ไม่มีโอกาสส่องกันอีก จบครึ่งแรก นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ตาม สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 0-1
ครึ่งหลัง ทั้ง 2 ทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัว และเริ่มที่จะเปิดเกมรุกเร่งจังหวะบอลเร็วมากขึ้น น.56 สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ก็ได้เสียวอีก เมื่อ ศิวกรณ์ เตียระกูล ได้ตั้งป้อมซัดในเขตโทษเยื้องทางซ้าย แต่ถูกทาง ทศพร ศรีเรือง นายด่านสวาดแคท ที่ยังไวพุ่งมาทุบบอลออกไปได้ทัน
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ไม่ท้อ พยายามเดินหน้าเปิดเกมรุกกดดันจนสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ลงไปตั้งรับกันพัลวัน น.72 ความพยายามของสวาดแคทก็เป็นผล เมื่ออัสซัมเซาได้บอลกระชากเข้าเขตโทษและโดนผู้เล่นสิงห์ เชียงราย ยูไนต็ด ชนจากด้านหลังล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษทันที และเป็นอัสซัมเซาลุกขึ้นมายิงเองไม่พลาดเข้าไปให้นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ตีเสมอ 1-1
สองทีมกลับมาเปิดเกมใส่กันอย่างสนุก น.88 สุริยา สิงห์มุ้ย ได้โอกาสซัดในกรอบเขตโทษเยื้องทางซ้าย แต่บอลไปตรงตัว ทศพร ศรีเรือง รับเอาไว้ได้ จากนั้นสองทีมก็ทำอะไรกันอีกไม่ได้จบการแข่งขัน เสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ ออกไปอีกสองครึ่ง ครึ่งละ 15 นาที แต่ยังทำสกอร์เพิ่มกันไม่ได้หมดเวลาเสมอกันอยู่ 1-1 เช่นเดิม ต้องตัดสินหาผู้ชนะด้วยการดวลลูกที่จุดโทษ
และผลการดวลจุดโทษปรากฎว่า เชียงรายฯ เอาชนะไปในการดวลจุดโทษ 3-1
โดยเชียงราย จะเข้าไปชิงชนะเลิศกับ บางกอกกล๊าส ที่พลิกล็อกเอาชนะ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเกมเตะรอบรองชนะเลิศอีกคู่ 2-1 โดยรอบชิงชนะเลิศจะดวลแข้งกันในวันที่ 20 ตุลาคม ทีมชนะเลิศ จะได้รับเงินสด 5,000,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล โตโยต้า ลีกคัพ และสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลแม่โขงคลับแชมเปี้ยนชิพ / รองชนะเลิศ จะได้รับเงินสด 1,000,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม (เอ็มวีพี) ได้รับรถยนต์ โตโยต้า CHR HV HI มูลค่า 1,159,000 บาท / ทีมมารยาทยอดเยี่ยม (โตโยต้าแฟร์เพลย์) ได้รับรางวัลรถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ สมาร์ท แค็บ มูลค่า 779,000 บาท
