ความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ครั้งที่ 3 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โดยก่อนหน้าหน้าาง คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กลับไปศึกษาแนวทางการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยูธโอลิมปิกเกมส์ ในปี 2026 นั้น
“รองตูน” นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ และวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันของประเทศไทย ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งน่าจะสร้างประโยชน์ให้ประเทศมากมาย ทั้งเชิงเศรษฐกิจ และท่องเที่ยว
รองผู้ว่าการ กกท. กล่าวอีกว่า อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีที่จะได้นำงบประมาณลงไปปรับปรุงสนาม รวมถึงสร้างสนามใหม่ขึ้นมาตามความจำเป็น ซึ่งการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยูธโอลิมปิกเกมส์ ในปี 2026 นั้น ได้วางแผนเบื้องต้นไว้ว่า น่าจะใช้งบประมาณไม่เกิน 1,600 ล้านบาท
นายณัฐวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า งบประมาณ 1,600 ล้านบาท เมื่อเทียบกับขนาดของการแข่งขันที่จะต้องรองรับนักกีฬากว่า 4,000 คนแล้ว ยังถือว่าน้อยมาก อีกทั้งยังเป็นการวางแผนระยะยาว 5-6 ปี ซึ่งเฉลี่ยแล้วจะใช้งบประมาณ ปีละ 300-400 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้น่าจะเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง
“ยกตัวอย่างในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ เมื่อปี 2014 ที่จังหวัดภูเก็ต ทุกอย่างเราทำเป็นแบบชั่วคราวทั้งหมด และเมื่อจบการแข่งขัน ตามชายหาดต่างๆ ที่เราเคยทำเป็นสนามก็ถูกรื้อออกไป”
“ดังนั้นในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนั้น ควรจะทำแบบผสม คือแบบชั่วคราวบ้าง และหากจำเป็นก็ควรสร้างสนามใหม่ขึ้นมาด้วย ตามความเหมาะสม เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลังได้มีสนามกีฬาไว้ใช้งานต่อไปด้วย” รองณัฐวุฒิกล่าวปิดท้าย
