การวิ่งมาราธอนเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย แต่สถิติประเทศไทยในระยะมาราธอน(42.195 กม.) ประเภทชายนั้น สถิติที่ จิรัฐติกาล บุญมา เคยทำไว้เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2538 ที่ จ.ลำพูน หรือเมื่อ 23 ปีที่แล้ว 2.19.33 ชั่วโมง อยู่คงกระพันมานานเหลือเกิน
แต่ในรายการแฟร้งเฟิร์ต มาราธอน ที่ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม สถิตินั้นได้ถูกทำลายลงไปแล้ว ด้วยความสุดยอดของ โทนี่ อาทิตย์ เพย์น ปอดเหล็กลูกครึ่งไทย-นิวซีแลนด์ ที่เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 2.16.59 ชั่วโมง เฉลี่ยความเร็ว 3.15 นาที ต่อ 1 กม. ทำลายสถิติประเทศไทย รวมทั้งทำลายสถิติของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ อีดูอาร์ดุส นาบูโนเม นักวิ่งชาวอินโดนีเซียที่ทำไว้ 2.20.27 ชั่วโมง เมื่อปี 2540 อีกด้วย
ปอดเหล็กคนนี้ปัจจุบันอายุ 29 ปี มีแม่เป็นชาวไทยและพ่อเป็นชาวนิวซีแลนด์ เติบโตที่บ้านเกิดของพ่อ เริ่มวิ่งอย่างจริงจังในช่วงเรียนระดับไฮสกูล และอวดพรสวรรค์ของตัวเองผ่านสองขามาเรื่อยๆ จนก้าวขึ้นมาเป็นนักวิ่งระดับประเทศในนิวซีแลนด์
โทนี่เรียนจบด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยโอทาโก และทำงานเป็นนักกฎหมายที่เมืองโอ๊คแลนด์ ก่อนจะขยับขยายไปทำงานต่อที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่หลังจากได้รับการติดต่อจากสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ให้เป็นนักกีฬาทีมชาติไทย โทนี่ลาออกจากงานและหันมาเป็นนักวิ่งแบบเต็มตัว ฝึกซ้อมเดือนละ 800 กม. ที่เมืองโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ด้วยเงินทุนของตัวเอง เพื่้อการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย
สถิติในเอเชี่ยนเกมส์ของโทนี่อยู่ที่ 2.24.52 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าไม่ดีนัก ถ้าเทียบกับสถิติที่ดีที่สุดของตัวเองเคยทำได้ 2.19.39 ชั่วโมง ที่เบอร์ลิน มาราธอน เมื่อปีที่แล้ว แต่การทุ่มอย่างหนัก ซ้อมวันละ 2 เวลา ทำเวลา 3.15 กม./ชั่วโมง ได้อย่างสม่ำเสมอ ถือว่าเขาเป็นนักวิ่งระดับท็อปคนหนึ่ง จนประสบความสำเร็จทำลายสถิติประเทศไทยลงได้ในรอบ 23 ปี เป็นการการันตีแล้วว่า นักวิ่งคนนี้ไม่ใช่คนที่ชอบวิ่ง แต่เป็นคนที่อยากจะชนะให้ได้ในทุกการวิ่ง
เมื่อนำสถิติประเทศไทยครั้งนี้ไปเทียบกับเวลาของ ฮิโรโตะ อิโนอุเอะ ปอดเหล็กญี่ปุ่น เจ้าของเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์หนล่าสุด ที่เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 2.17.22 ชั่วโมง โทนี่ เพย์น ทำได้ดีกว่า แต่ในเมื่อเป็นผลงานคนละสนาม คนละเวลา และคนละสภาพอากาศ คงได้แค่ปรบมือให้เขาแทนเหรียญทองคล้องคอเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม โอกาสประสบความสำเร็จในการแข่งขันของโทนี่ยังเปิดกว้าง เพราะความทุ่มเทและ “ใจ” ที่ยังมีอีกเหลือเฟือ อาจจะได้เห็นลูกครึ่งคนนี้ทำลายสถิติประเทศไทยของตัวเองไปเรื่อยๆ ก็เป็นได้
