‘บิ๊กป้อม’ มอบเงินช่วยเหลือครอบครัว ‘น้องเล็ก’ ลุงเผยลางบอกเหตุก่อนหลานชายน็อคดับเวที

ความคืบหน้ากรณี “น้องเล็ก” เพชรมงคล ป.พีณภัทร นักมวยเด็กวัย 13 ปี เสียชีวิตคาสังเวียน ด้วยอาการเลือดคั่งในสมอง หลังพ่ายน็อก ฟ้าใหม่ ว.สุดประเสริฐ ยก 3 ในการชกที่ เวทีมวยชั่วคราว โรงเรียนวัดคลองมอญ ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ โดยการแข่งขันชกมวยรายการดังกล่าว เป็นการแข่งขันชกมวยการกุศลโครงการต้านภัยยาเสพติดครั้งที่ 1 ชิงถ้วยรางวัลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

เหตุการณ์สลดดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาทบทวน เสนอร่าง แก้ไขพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 ฉบับใหม ที่มีสาระสำคัญ คือ ห้ามไม่ให้ผู้จัดรายการแข่งขันกีฬามวยและนายสนามมวยอนุญาตให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าร่วมแข่งขัน เว้นแต่ได้รับความชอบจากนายทะเบียน แต่สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปีนั้น จะไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ ซึ่งคนวงการกีฬามวยไทยออกมาต่อต้านกันเพราะมองว่าจะเป็นการทำลายวงการมวยไทยนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในนามประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวของ “เพชรมงคล ส.วิไลทอง” หรือ “น้องเล็ก” ด.ช.อนุชา ทาสะโก วัย 13 ขวบ โดยมีนายดำรงค์ ทาสะโก คุณลุงของน้องเล็กเป็นตัวแทนรับมอบ ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ

พล.อ.ประวิตร ได้มอบเงินช่วยเหลือพร้อมกับกล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องเล็กที่ชกมวยการกุศลด้วย เป็นตัวอย่างให้กับเยาวชนในการหาเวลาว่างให้เป็นประโยชน์หาเงินหาทองช่วยครอบครัว ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวจงต่อสู้ต่อไป และขอให้บุญกุศลที่น้องเล็กได้ทำไว้จงช่วยดลบันดาลให้ครอบครัวตงมีความสุขความเจิรญปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

Advertisement

พลเอกประวิตรได้สอบถามถึงครอบครัวว่า น้องเล็กมีพี่น้องกี่คน ซึ่งนายดำรงค์ ได้ตอบว่า น้องเล็กมีพี่สาว 1 คนเรียนพยาบาล ที่ จ.ขอนแก่น และพี่ชาย 1 คน ส่วนพ่อแม่เลิกรากันแล้ว แม่ไปทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลี ตัวเองทำหน้าที่ลุง และเป็นพ่อไปด้วย ซึ่งพยายามดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี แม้พื้นฐานของครอบครัวจะเป็นแบบนี้ แต่พวกเรายืนอยู่บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ และอยากให้เขาเป็นคนดีของสังคม

นายดำรงค์ กล่าวว่า ขอบคุณ พลเอกประวิตรที่มีความกรุณาต่อครอบครัว ซึ่งก็จะได้นำเงินไปบอกกับน้องเขาในวันนี้ที่วัดใหม่บางประกด วันนี้ได้มาทำหน้าที่แทนหลานชายแล้ว เป็นนักมวยตายบนเวทีก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด บอกเขาว่า เป็นวีรบุรุษ ชาติหน้าฉันใดก็ขอให้เกิดเป็นพ่อลูกกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีลางบอกเหตุที่ว่า ตัวเองได้ส่งรูปน้องเล็กไปให้แม่เขาที่อยู่เกาหลีใต้ แม่เขาก็บ่นว่าทำไมถ่ายรูปน้องหันหลังมาให้ ทั้งที่ตอนถ่ายเป็นการถ่ายรูปด้านหน้า อีกลางสังหรณ์คือ แม่เขาหยิบแก้วน้ำจะกินก็หล่นแตก

“น้องเล็กเขาตั้งใจจะเป็นนักมวย เพราะชอบมวยมาตั้งแต่เด็ก เราไม่ได้บังคับเขาว่าต้องต่อยมวยนะ ผมเองก็อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ผมไม่ได้โทษใคร มันเป็นอุบัติเหตุ สภาพจิตใจครอบครัวมันก็มีเสียใจ แต่เราเองก็เชื่อในเรื่องงเวรกรรม หรือน้องเขาอาจจะทำบุญมาแค่นี้ อายุขัยเขาอาจจะมีแค่นี้ น้องเล็กมีความฝันว่า ม.4 จะสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร อยากเป็นทหาร และโตขึ้นอยากเป็นแชมป์เวทีมาตรฐาน เวทีราชดำเนิน ลุมพินี ซึ่งอันนี้เป็นแผนชีวิตของเขาเอง แต่เราเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ถ้าสอบไม่ได้ หรือต่อยมวยต่อไม่ได้ เขาอยากเลิกก็ให้เลิก” นายดำรงค์ กล่าว

Advertisement

นายดำรงค์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่จะห้ามเด็กต่อมวยไทยนั้น เรื่องมาตรการมวยเด็กส่วนตัวมองว่าไม่ควรห้าม แต่ขอบอกสั้นๆ คำเดียวว่า ต้องปลอดภัย คือต้องมีอุปกรณ์ป้องกัน หรือ แบ่งช่วงอายุลงมาต่ำกว่า 12 ลงมา เพราะ 15 ปี มีการตัดสินใจที่ดีกว่า ยืนยันว่าการชกมวยเด็กควรจะต้องแบ่งช่วงชั้นอายุ และความปลอดภัย เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนมวยไทยให้คงอยู่ไว้ เพราะเป็นศิลปะประจำชาติ ครอบครัวมองว่าการเสียชีวิตของน้องเป็นอุบัติเหตุ เราภูมิใจกับน้องเป็นอย่างยิ่ง เปรียบเป็นทหารก็ตายในสนามรบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image