ความเคลื่อนไหวทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ซึ่งอยู่ในช่วงทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 20118” ลงเตะรอบแรกกลุ่มบีแล้ว 3 นัด ชนะ ติมอร์ เลสเต 7-0, ชนะ อินโดนีเซีย 4-2 และบุกเสมอ ฟิลิปปินส์ 1-1 มี 7 แต้ม ขึ้นนำอันดับ 1 โดยโปรแกรมนัดสุดท้าย ทีมชาติไทย จะลงสนามชี้ชะตาการเข้ารอบรองชนะเลิศพบ สิงคโปร์ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก วันที่ 25 พฤศจิกายน เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD และ Bugaboo TV
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ทีมชาติไทย มี 7 แต้ม เท่ากับ ฟิลิปปินส์ ส่วนสิงคโปร์ มี 6 แต้ม รั้งอันดับ 3 โดยหากไทยชนะ หรือ เสมอ ก็จะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศทันที แต่ถ้าหากแพ้ ต้องไปลุ้นผลคู่ระหว่าง ฟิลิปปินส์ กับ อินโดนีเซีย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน “โค้ชมิโล่” มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทยชาวเซอร์เบีย นำนักเตะลงฝีกซ้อมแบบปิดในช่วงเย็น ที่สนามวินด์มิลล์ ฟุตบอลคลับ บริเวณโรงแรมเลอเมอริเดียน สุวรรณภูมิ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน และบุคคลนอกเข้าชม ซึ่งผิดจากปกติที่จะให้สื่อมวลชนถ่ายภาพได้ 15 นาที
ขณะเดียวกัน ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ซึ่งตามปกติต้องมาซ้อมอย่างเป็นทางการที่สนามแข่งจริง ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน แต่สำหรับทีมไทยนั้น มิโลวาน ราเยวัช ตัดสินใจไม่นำนักเตะออกมาฝึกซ้อมภายนอก และให้ลูกทีมปักหลักซ้อมที่สนามวินด์มิลล์เช่นเดิมในช่วงเย็น แต่ให้สื่อมวลชนสามารถถ่ายภาพได้ 15 นาที
เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว กองหลังกัปตันทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ยืนยันทุกคนในทีมยังมั่นใจ ก่อนเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเกมชี้ชะตาเข้ารอบรองชนะเลิศ ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018 โดยตอนนี้ทุกคนยังมีความกังวลอยู่บ้างที่ยังไม่เข้ารอบ แต่ก็มองว่า 1 แต้มที่ได้มาจากฟิลิปปินส์ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร เรายังนำเป็นจ่าฝูง และสถานการณ์ ก็ยังอยู่ในมือของเรา
“บรรยากาศในทีมตอนนี้ ก็ยังโอเค และทุกคนยังมุ่งมั่นเหมือนเดิมครับ อีกอย่าง เรามองกันเกมต่อเกมอยู่แล้ว เราไม่ได้รู้สึกว่า ต้องเสียดาย หรือต้องให้ความสำคัญเกมที่ผ่านมา ดังนั้น ผมเชื่อว่าทุกคนเข้าใจกับสถานการณ์ตอนนี้ดี และคงลืมกันไปหมดแล้ว เพื่อโฟกัสกับเกมที่กำลังจะมาถึง” เฉลิมพงษ์ กล่าว
กัปตันช้างศึก กล่าวอีกว่า การเจอสิงคโปร์นั้น เราได้เปรียบอยู่แล้วที่ได้เล่นในบ้าน และอีกอย่างมองว่า จากเงื่อนไขที่ สิงคโปร์ ต้องชนะสถานเดียว ก็น่าจะเข้าทางเราที่เน้นรับแล้วมีพื้นที่ให้ได้เล่นเกมรุก แต่ในฐานะที่เราเล่นในบ้านก็ไม่ได้คิดจะตั้งรับอย่างเดียวอยู่แล้ว ซึ่งแม้ว่าผลเสมอ ก็เพียงพอต่อการเข้ารอบ แต่บอกได้เลยว่า เราต้องการ 3 คะแนนเหมือนกัน
“ส่วนตัวผมยังมั่นใจ และเชื่อว่าทุกคนก็ยังมั่นใจ จริงอยู่ที่เราเสมอมาในเกมล่าสุด แต่ก็อย่างที่บอกไป ผมมองว่า มันไม่ได้เสียหายอะไรเลย อีกอย่าง ฟิลิปปินส์ ปัจจุบัน ก็ไม่ได้เหมือนแต่ก่อนที่ทุกคนรู้จักแล้ว ถ้าพูดตามตรงก็เหมือนเราเจอกับทีมในยุโรปดังนั้น 1 คะแนน ในฐานะทีมเยือน ไม่ได้ทำให้เราเสียความมั่นใจกันไปเลย”
“การเสียประตูท้ายเกม 2 นัดติด แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องดี และโค้ชก็ไม่พอใจ แต่ผมว่า ในเกมฟุตบอล มันสามารถเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ ผมเชื่อว่าทุกคนมีสมาธิกันอยู่แล้ว แต่อาจต้องมีสมาธิกันมากขึ้นกว่าเดิม หรือ ในขณะที่เหนื่อยๆ ก็ต้องคอยกระตุ้นกันให้มากขึ้น และผมเชื่อว่า เราจะแก้ไขจุดบกพร่องเหล่านี้ไปได้”
“สุดท้าย ผมอยากให้แฟนบอลเข้ามาเชียร์เราเยอะๆครับ แม้ว่ารูปเกมอาจไม่ได้เป็นดั่งใจ แต่ผมเชื่อและอยากให้ทุกคนคิดว่า โค้ชคงมีวิธีการจัดการในแต่ละเกมอยู่แล้ว อย่างน้อย เรายังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันครับ ก็อยากให้เข้ามาให้กำลังใจกันครับ” เฉลิมพงษ์ กล่าวปิดท้าย
