‘ภูริต’ ซิ่งขึ้นโพเดี้ยมสองเรซติด จบรองแชมป์ปีนักขับ – ออดี้อาร์8แอลเอ็มเอสคัพ2018 ปิดฤดูกาล ที่เซปัง มาเลเซีย

ภูริต ภิรมย์ภักดี นักขับชาวไทยของทีม สิงห์-แพลนบี บาย แอบโซลูท เรซซิ่ง จบรองแชมป์ในประเภทนักขับประจำปี หลังเข้าเส้นชัยอันดับสามและสอง ในสองเรซสุดท้ายของฤดูกาล ส่วนแชมป์ประจำปีเป็น แอนดรูว์ ฮาร์ยันโต นักขับจากอินโดนีเซีย ที่เก็บ 50 แต้มเต็มใน 2 เรซสุดท้าย ในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ “ออดี้ อาร์ 8 แอลเอ็มเอส คัพ 2018” ที่เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ “ออดี้ อาร์ 8 แอลเอ็มเอส คัพ” ที่เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามความยาว 5.543 กม. ในประเทศมาเลเซีย เป็นสนามที่ 9-10 ซึ่งเป็นเรซสุดท้ายของฤดูกาลโดยจะแข่งขัน 30 นาที หรือ 13 รอบขึ้นอยู่กับว่าอะไรถึงก่อน โดยสถานการณ์ก่อนเข้าเรซสุดท้ายนั้น ภูริต ภิรมย์ภักดี นักขับชาวไทยของทีมสิงห์-แพลนบี บาย แอบโซลูท เรซซิง มีคะแนนะสมอยู่ 163 ตะแนน นำหน้า แอนดรูว์ ฮาร์ยันโต นักขับจากอินโดนีเซีย 2 คะแนน ต้องการจบอันดับที่ดีกว่า ฮาร์ยันโต เพื่อการันตีการคว้าแชมป์ประเภทนักขับ

การแข่งขันในเรซสุดท้าย เรซที่ 10 ขับเคี่ยวกันอย่างสนุกตื่นเต้นระหว่างสองนักขับที่มีลุ้นแชมป์ประจำปี ภูริต ภิรมย์ภักดี ในรถออดี้ อาร์ 8 แอลเอ็มเอส หมายเลข 59 ที่ต้องการอันดับที่ดีกว่า ฮาร์ยันโต พยายามไล่กดดันนักขับชาวอินโดนีเซียที่อยู่ข้างหน้าอย่างหนักและเกือบจะทำสำเร็จ ทว่าในช่วง 4 รอบสุดท้ายของการแข่งขันรถของทีมสิงห์-แพลนบี บาย แอบโซลูท เรซซิ่ง เสียหลักหมุนหลังผ่านทางตรงบริเวณเส้นชัย แต่ยังสามารถประคองรถกลับเข้ามาแข่งขันได้ แต่ก็ทำได้ดีที่สุดเพียงอันดับสองของการแข่งขันด้วยสถิติ 28 นาที 06.574 วินาที

ส่วนแชมป์ของเรซสุดท้ายเป็น ฮาร์ยันโต นักขับชาวอินโดนีเซียของทีมโปรแม็กซ์ ที่ควบออดี้ หมายเลข 28 เข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งด้วยเวลา 28 นาที 03.772 วินาที คว้าแชมป์เป็นเรซที่สามของฤดูกาล และเป็นชัยชนะเรซที่สองติดต่อกันหลังจากคืนก่อนหน้านั้นเพิ่งจะเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งในการแข่งขัน เรซ 9 แบบไนท์เรซ ส่งผลให้ ฮาร์ยันโต แซงขึ้นมาคว้าแชมป์ประเภทนักขับไปครองด้วยคะแนนะสมทั้งฤดูกาล 186 คะแนน เฉือน ภูริต ที่จบอันดับสามในไนท์เรซเพียง 5 คะแนนเท่านั้น

Advertisement

ฮาร์ยันโต เปิดเผยหลังคว้าแชมป์ประเภทนักขับว่า “ผมคิดว่าผมโชคดีที่สามารถคว้าชัยชนะมาครองได้ เพราะ ภูริต ที่กำลังไล่กดดันอย่างนั้นเกิดเสียหลัก ส่วนในเรซที่เก้าที่ผมคว้าชัยชนะมาได้นั้น ตอนก่อนแข่งนั้นผมคิดว่าผมกับภูริตต้องแข่งกันแบบเอาเป็นเอาตายแน่ แต่เมื่อผมมีโอกาสที่จะแซงผ่าน เขาก็กลับเปิดทางให้ผมอย่างมีน้ำใจนักกีฬา ซึ่งผมต้องขอบคุณจริงๆ”

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image