น.ส.จารุรินทร์ ภู่ระย้า ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาทักษะ ความสามารถและกิจกรรมนักศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.), รศ.ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม หัวหน้านักกีฬาปัญญาชนไทย, รศ.ดร.กฤษณ์ ทองเลิศ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้สนับสนุน ร่วมแถลงข่าวส่งนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 19 ที่ ม.รังสิต เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน
น.ส.จารุรินทร์กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก สกอ.ในการคัดเลือก เก็บตัว ฝึกซ้อมและส่งแข่งขัน เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพกีฬามหาวิทยาลัยของประเทศไทยให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการแข่งขั้นครั้งนี้แข่งขันที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า ระหว่างวันที่ 10-19 ธันวาคม คาดหวังว่านักกีฬาปัญญาชนไทยจะทำผลงานได้ดีเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา
รศ.ดร.วิชิตกล่าวว่า จากการพิจารณาคู่แข่ง คาดว่าทัพไทยจะเป็นทัพที่ใหญ่ติด 1 ใน 3 ของ 11 ชาติ อาจจะเป็นรองแค่ “เจ้าภาพ” พม่า ชาติเดียวเท่านั้น เพราะไทยส่งแข่งขันครบทั้ง 17 ชนิดกีฬา อย่างไรก็ตามไทยส่งแข่งขันไม่ครบทุกอีเวนต์ทำให้ประมาทคู่แข่งอย่างพม่า, เวียดนาม, มาเลเซียไม่ได้ ดังนั้นทุกชนิดกีฬาจึงควรมีเหรียญทอง อาจจะมีบางกีฬาที่ยังเป็นรองแต่ก็หวังว่าจะมีเซอร์ไพรส์หยิบเหรียญทองครบทุกกีฬาให้ได้
“เหรียญที่พลาดไม่ได้ คือ ฟุตบอลชาย เพราะไทยเป็นแชมป์มาแล้ว 15 สมัย หวังว่าครั้งนี้จะเป็นแชมป์สมัยที่ 16 ให้ได้ ตัวนักเตะส่วนใหญ่เป็นนักฟุตบอลอาชีพในไทยลีก 3-4 ถือว่ามีศักยภาพดีพอที่จะคว้าแชมป์ได้ แต่ก็ไม่ใช่งานง่ายนัก” หัวหน้านักกีฬาไทยกล่าว
รศ.ดร.วิชิตกล่าวอีกว่า โอกาสเป็นเจ้าเหรียญทองอีกสมัยนั้นมีสูง เพราะนักกีฬาไทยชุดนี้ถึงแม้จะไม่ได้ตัวทีมชาติร่วมทีมมามากมาย แต่ก็มีจำนวนหนึ่งที่เป็นตัวหลักในทีมชาติ จำนวนเหรียญทองที่ตั้งเป้าไว้จะต้องมากกว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่สิงคโปร์ ที่ได้มา 51 เหรียญทอง และนักกีฬาจะต้องพัฒนาสถิติของตัวเองให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ เจ้าภาพจัดการแข่งขัน 17 ชนิดกีฬา รวม 201 เหรียญทอง ได้แก่ ว่ายน้ำ 38 เหรียญทอง, กรีฑา 36 เหรียญทอง, ยิงธนู 10 เหรียญทอง, แบดมินตัน 7 เหรียญทอง, บาสเกตบอล 2 เหรียญทอง, หมากกระดาน 4 เหรียญทอง, ฟุตบอลชาย 1 เหรียญทอง, กอล์ฟ 4 เหรียญทอง, คาราเต้-โด 15 เหรียญทอง, โววีนั่ม 17 เหรียญทอง, วูซู 20 เหรียญทอง, เทนนิส 7 เหรียญทอง, เทเบิลเทนนิส 7 เหรียญทอง, วอลเลย์บอล 2 เหรียญทอง, เปตอง 7 เหรียญทอง, เรือพาย-เรือยาวประเพณี 16 เหรียญทอง, เซปักตะกร้อและชินลง 8 เหรียญทอง
