ปิดฉาก ‘แดงเดือด’ สมานฉันท์ ‘แมนฯ ยู’ เจ๊า ‘ลิเวอร์พูล’ 0-0

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำค่ำคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เป็นโปรแกรมศึกแห่งศักดิ์ศรี “แดงเดือด” นัดที่ 202 ที่แฟนบอลชาวไทยของทั้ง 2 สโมสรเฝ้ารอคอย “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ดวลกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 2 ของตาราง

ก่อนเริ่มเกม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือปีศาจแดง เจอปัญหาใหญ่ เมื่อ เนมันย่า มาติช มิดฟิลด์ตัวรับกำลังหลักของทีมมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ต้องปรับทีมเล็กน้อย โดยส่ง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ มาเล่นตัวรับแทน ส่วนแดนหน้าส่ง โรเมลู ลูกากู ผนึกกำลังกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด โดยมี ฆวน มาต้า เป็นกองกลางตัวรุก

ฝั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือหงส์แดง ไม่มีปัญหาการจัดทีม ส่งชุดใหญ่เต็มอัตราศึกนำโดย 3 จตุรเทพ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ ปั่นป่วนแนวรับปีศาจแดง

ครึ่งแรก เกมของทั้งคู่เล่นกันแบบอึดอัด เน้นระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ แต่แมนฯ ยู โชคร้ายเกิด 3 ผู้เล่นเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนตัวครบโควต้า 3 คน รายแรก นาทีที่ 21 อันเดร์ เอร์เรร่า เจ็บต้องส่ง อันเดรียส เปไรร่า ลงมาแทน รายต่อมา นาทีที่ 25 ฆวน มาต้า เจ็บ ต้องส่ง เจสซี่ ลินการ์ด มาแทน แต่ลินการ์ด เล่นได้แค่ 18 นาที ลินการ์ด มาเจ็บต้องเปลี่ยนเอา อเล็กซิส ซานเชส ลงมาแทน
ฝั่งหงส์แดง นาทีที่ 31 โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เจ็บข้อเท้าจนต้องเปลี่ยนเอา ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ลงมาแทน โดยจบครึ่งแรกสกอร์เสมอกันอยู่ 0-0

Advertisement

ครึ่งหลังลิเวอร์พูล ลุยหนักโหมบุกใส่ปีศาจแดงที่กลายเป็นทีมไม่สมบูรณ์ ต้องเน้นเกมรับเป็นพิเศษเพื่อหวังประคองตัวมีแต้ม ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายโหมบุก แต่ผู้เล่นแมนฯ ยู ช่วยกันไล่บีบพื้นที่ และคุมแนวรับไว้อย่างเหนียวแน่น โดยแนวรุกทั้งสองทีม จ่ายบอลกันไม่แม่นยำในจังหวะสุดท้าย ทำให้จบเกมเสมอกันไป 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม

แมนฯ ยู เตะ 27 นัด มี 52 แต้ม อยู่อันดับ 5 ส่วนลิเวอร์พูล เตะ 27 นัด มี 66 แต้ม แซงแมนฯ ซิตี้ กลับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงอีกครั้ง

ส่วนผลอีกคู่

Advertisement

อาร์เซน่อล ชนะ เซาแธมป์ตัน 2-0

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image