“เจ็ตสกี โปรทัวร์ 2019” ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย พร้อมระเบิดศึกสนาม 2 ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 20-21 เมษายน คาดเกมบนผืนน้ำระอุกว่าสนามแรกแน่นอนโดยเฉพาะรุ่นสปอร์ต จีพี ที่ สุภัค เสร็จธุระ แชมป์ 8 สมัย หวังทวงบัลลังค์แชมป์จาก ธภัทรวัฒน์ โจสรรค์นุสนธิ์
ดร.พัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จังหวัดประจวบฯ ร่วมกับสมาคมกีฬาเจ็ตสกีฯจัดการแข่งขันเป็นปีที่ 6 ติดต่อกันแล้ว ดังนั้นเรื่องการดำเนินการต่างๆจึงมีความราบรื่นดี หน่วยงานสำคัญๆ ของจังหวัดหลายองค์กร เข้ามาร่วมมือกัน นอกจากจะเป็นสนามแข่งขันเจ็ตสกีที่ได้มาตรฐานระดับโลกแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด และเป็นกิจกรรมให้พี่น้องในจังหวัดได้ชมการแข่งขันอันน่าตื่นเต้น
ขณะที่เกมในสนามนี้ รุ่นที่น่าจะสู้กันระอุที่สุดอยู่ที่รุ่นสปอร์ต จีพี หลังจากสนามแรกที่กำแพงเพชรเป็น “โอปอ” ธภัทรวัฒน์ โจสรรค์นุสนธิ์ ดาวรุ่งวัย 17 ปีเอาชนะแชมป์ประเทศไทย 8 สมัยซ้อนอย่าง สุภัค เสร็จธุระ คว้าแชมป์ไปครอง ทำให้ สุภัค มีความมุ่งมั่นจะทวงแชมป์คืนเพื่อทำคะแนนกลับมาลุ้นแชมป์ประเทศไทยสมัยที่ 9 ให้ได้ ประกอบกับการที่สนามนี้จะเป็นการแข่งขันในสนามแบบทะเล ที่ต้องใช้ทั้งฝีมือและประสบการณ์ทำให้ สุภัค น่าจะได้เปรียบอยู่เล็กน้อย โดยที่ผ่านมามักจะทำผลงานได้ดีกว่านักเจ็ตสกีชั้นนำคนอื่นๆ ในสนามทะเล
ขณะที่ ธภัทรวัฒน์ ตอนนี้เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่นักแข่งรุ่นพี่จะประมาทไม่ได้อีกแล้ว มีดีเรื่องความมุ่งมั่นขยันฝึกซ้อม และอยากจะพิสูจน์ตัวเองว่าในสนามทะเลก็สามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
รุ่นยักษ์ใหญ่อย่าง เจ็ตสกีนั่ง จีพี ต้องลุ้นกันว่าจะมีนักแข่งไทยคนไหนโค่น จุน อิโคม่า นักแข่งญี่ปุ่นแชมป์เก่าและแชมป์สนามแรกได้หรือไม่ หลังจากในสนามแรกยังไม่มีนักแข่งไทยทำผลงานได้ดีต่อเนื่องได้ทั้ง 4 โมโตของการแข่งขัน
รุ่นสุดยอดเรือยืนในรุ่นอาชีพเจ็ตสกียืน เป็นอีกรุ่นที่โอกาสเปิดกว้างมากในปีนี้หลังจาก ทัศพงศ์ แสงอุทัย ได้แชมป์มาในสนามแรก แต่สนามนี้นักแข่งชั้นนำอย่าง กษิดิศ ธีระประธีป แชมป์เก่า, ณัฐกร ภูภัคดี และ นันทวัฒน์ สิงห์อุไร
สีสันที่คาดว่าจะมีแฟนเจ็ตสกีเข้าไปลุ้นกันถึงขอบสนามจนล้นหลามคือการป้องกันแชมป์ของ “เปิ้ล” นาคร ศิลาชัย ในรุ่นเจ็ตสกีนั่งห้ามแต่งเครื่องยนต์ และเจ็ตสกีนั่ง ซีดู ห้ามแต่งเครื่องยนต์ ที่ปีนี้เปิ้ล นาคร กลับมาฟอร์มดีได้แชมป์ถึง 2 รุ่นในสนามแรก
