ความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬานักเรียนแห่งอาเซียน “อาเซียนสกูลเกมส์ 2019” ที่เมืองเซมารัง เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ทัพนักกีฬาไทยลงแข่งขันเป็นวันแรกหลายชนิดกีฬา และประเดิมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตามสนามแข่งขันต่างๆ คึกคัก มีแฟนกีฬาชาวอินโดนีเซียเข้าเชียร์นักกีฬาเป็นจำนวนมาก รวมถึงนายสันติ ป่าหวาย อธิบดีกรมพลศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะนักกีฬา ร่วมให้กำลังใจทัพนักกีฬาไทยทุกชนิดกีฬาสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ไทย
นายสันติ เปิดเผยว่า จากการมาให้กำลังใจทัพนักกีฬาไทย เห็นได้ว่านักกีฬาไทยทำผลได้เป็นอย่างดีบ่งบอกว่าเราได้ทำการเก็บตัวมาเป็นอย่างดี ทุกกระบวนการในการคัดเลือกนักกีฬาเราได้ทำอย่างโปร่งใส เก็บตัวกันอย่างเข้มข้น ขอบคุณน้องๆ นักกีฬา ขอบคุณผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่ที่ได้ดูแลนักกีฬาอย่างใกล้ชิด สำหรับประเด็นที่ทุกชาติเห็นว่าเกมการแข่งขันอาเซียนสกูลเกมส์มีชนิดกีฬาแข่งขันค่อนข้างน้อยนั้น ไทยเรามีแนวคิดที่จะผลักดันชนิดกีฬาเข้าไปบรรจุแข่งเพิ่มเติมในครั้งหน้าที่ประเทศฟิลิปปินส์จะเป็นเจ้าภาพ โดยไทยจะเลือก กอล์ฟ, เปตอง และกระโดดเชือก เป็น 3 ชนิดกีฬาที่จะขอให้ฟิลิปปินส์บรรจุแข่งขันเพื่อให้เกมการแข่งขันมีมาตรฐานและเกมใหญ่ขึ้น โดยไทยเราเองเก็นว่าเจ้าภาพแต่ละครั้งควรบรรจุชนิดกีฬา 15-16 ชนิดเป็นอย่างน้อยเพื่อให้เกมสมบูรณ์ขึ้น
นายสันติ กล่าวต่อว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ฝากเป็นกำลังใจมาถึงทัพนักกีฬานักเรียนไทย โดยบิกว่าแพ้ หรือชนะเป็นเรื่องปกติของกีฬา ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ สำหรับเรื่องที่ตนได้เห็นถึงปัญหาของนักกีฬานักเรียนของไทยคือ เมื่อเราแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติจบในทุกๆ ปีแล้ว กลุ่มนักกีฬาอายุ 18 ปีจะไม่มีเกมแข่งขันเพื่อต่อยอด ทำให้กรมพลศึกษามีแนวคิดว่าในอนาคตจะต้องมีการหาวิธีการต่อยอดกลุ่มนักกีฬาที่แข่งกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติโดยอาจจะให้สิทธิ์ทีมแชมป์แต่ละกีฬาเป็นตัวแทนมาแข่งขันอาเซียนสกูลเกมส์
อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวในตอนท้ายว่า ไทยเองมีความคิดจะเป็นเจ้าภาพอาเซียนสกูลเกมส์แต่ในปี 2021 ที่เวียดนามอาจถอนตัวไทยคิดว่ากระชั้นชิดเกินไป จึงอยากจะเป็นเจ้าภาพในปี 2025 น่าจะเหมาะสมกว่า
