การแข่งขันกีฬานักเรียนแห่งอาเซียน ครั้งที่ 11 หรือ “อาเซียนสกูลเกมส์ 2019” ที่เมืองเซมารัง เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม เป็นวันสุดท้ายของการชิงชัย แต่โปรแกรมพิธีปิด และทัศนศึกษาของเด็กนักเรียนจาก 10 ชาติยังไม่เริ่มขึ้น
นายนิวัฒน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ รองอธิบดีกรมพลศึกษา เปิดเผยว่า ภาพรวมผลงานทัพนักกีฬาไทยถือว่าน่าพอใจอย่างมากเพราะก่อนมา นายสันติ ป่าหวาย อธิบดีกรมพลศึกษา ตั้งเป้าไว้ที่ 27 เหรียญทอง ถือว่าเกินเป้าหมาย กีฬาที่น่าชื่นชมอย่างมากคือ ว่ายน้ำที่คว้าเจ้าสระมาครองได้ที่ 15 ทอง อีกชนิดกีฬาที่ต้องชื่นชมคือ ปันจักสีลัตที่คว้าเกินเป้า ชนิดกีฬาที่ล้มเหลวคือ แบดมินตัน ต้องไปหาแนวทางคัดเลือกตัวนักกีฬาใหม่
นายนิวัฒน์กล่าวว่า มาตรฐานการเป็นเจ้าภาพของอินโดนีเซีย อยู่ในเกณฑ์ที่ดีน่าชื่นชม สำหรับนักกีฬาชุดนี้กรมพลศึกษาได้ต่อยอดและส่งไม้ต่อไปให้สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อพัฒนาไปสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคต
“เป็นเรื่องที่ดีที่นักกีฬาเด็กๆ ของไทยได้เจอสภาพกองเชียร์อินโดนีเซียเป็นการฝึกจิตใจนักกีฬาไทยให้แข็งแกร่ง” นายนิวัฒน์กล่าว
