กกท.วางแผนสร้างอาชีพให้นักกีฬามั่นคง – ‘บิ๊กป้อม’ ห่วงทัพ อลป. กำชับเก็บตัวเข้มข้น

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดงานแถลงสรุปผลงานและนโยบายการบริหารงานในปี 2563 ที่โรงแรมบางกอก โอเอซิส เมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา

ดร.ก้องศักด เปิดเผยว่า มี 2-3 ประเด็นที่ กกท.ได้รับมอบนโยบายจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และได้หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วใที่จะทำอย่างไรในการช่วยเหลือนักกีฬาของเราเพื่อที่จะให้เขามีอนาคตเพราะว่าบางชนิดกีฬาพวกเขาไม่สามารถที่จะต่อยอดจากสมัครเล่น หรือว่ากีฬาเพื่อความเป็นเลิศขึ้นไปสู่ระดับอาชีพได้ ยกตัวอย่างเช่น นักกีฬาว่ายน้ำ หรือนักกีฬายิมนาสติก ซึ่งเราเห็นว่าปัจจุบันนักกีฬาเหล่านี้ของไทยเริ่มน้อยลง มีเด็กๆ ที่หันมาเล่นกีฬาเหล่านี้น้อยลงเนื่องจากว่าพวกเขารู้สึกว่าอาชีพของพวกเขาไม่มีความมั่นคง ดังนั้น กกท.มีประเด็นที่จะผลักดันในปี 2563 คือ เรื่องของการทำอย่างไรให้นักกีฬาเหล่านั้น มีความมั่นคงในอาชีพ เราได้มีการพูดคุยปรึกษากับ ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้มีความเห็นร่วมกันว่า เราจะทำอย่างไรที่จะให้บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงให้กับนักกีฬา และสมาคมกีฬาต่างๆ รวมถึงช่องทางต่างๆ ที่เราจะต่อยอด ทั้งนี้จะครอบคลุมทั้งนักกีฬาทั่วไปและนักกีฬาคนพิการด้วยเพื่อให้เขามีอนาคต ถ้าเกิดเขาเล่นทีมชาติไทย สถิติผลงานดีพวกเขาสามารถมีช่องทางในการที่จะไปต่อยอดไปทำงานดีๆ หรือมีโอกาสในการเข้าไปทำงานในบริษัทใหญ่ๆ นี่คือ ประเด็นแรกที่เราจะขอทำความตกลงร่วมกันกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ดร.ก้องศักด กล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมา กกท.ได้หารือกับ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และได้มีความเห็นร่วมกันว่า กกท. จะพยายามเป็นแหล่งที่มาต้นทางของข่าวสารดีๆ ของวงการกีฬาเผยแพร่ไปยังสาธารณะมากยิ่งขึ้น โดย กกท.จะมีการทำงานร่วมกันกับ อสมท. และกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะที่เป็นสื่อของภาครัฐในการวางแผนว่าในปี 2563 เราอยากให้นักกีฬาของไทยที่ไปประสบความสำเร็จอย่างเช่น ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 เราได้มา 92 เหรียญทอง เราอยากให้นักกีฬาเหล่านี้เป็นฮีโร่ของเด็กไทย อยากที่จะเผยแพร่โดยใช้สื่อของรัฐ ไม่ว่าจะเป็น ทีวี วิทยุ โซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆ คล้ายๆ ที่จะปั้นเป็นดาราขึ้นมา

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวในตอนท้ายว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงว่าเราพลาดการเป็นเจ้าเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 หลังจากนี้คงต้องเน้นทำให้ดีขึ้น โดยเวลานี้ กกท. ได้ตั้งคณะทำงาน 1 ชุดเพื่อที่จะไปศึกษาดูว่า กีฬาสากลที่เราเป็นความหวังคว้าเหรียญรางวัลมี 7-8 สมาคมกีฬาแล้วคณะทำงานจะเข้าไปประกบทำงานแบบตัวต่อตัวเพื่อไปสู่เป้าหมายเหรียญรางวัลในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สมาคมไหนมีปัญหาอย่างไร จะได้แก้ไขได้ตรงจุด เราจะทำงานกันอย่างเข้มข้นขึ้นจนไปถึงโอลิมปิกเกมส์ 2020

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามความคืบหน้าเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ของไทย ดร.ก้องศักด ตอบว่า “ตอนนี้เตรียมเสนอเรื่องเข้าขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี มีการเจรจากับทางญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของประเทศไทยเองเราก็ได้พูดคุยกับบริษัท เดนท์สุ ไทยแลนด์ และบริษัท แพลนบี ซึ่งข้อสัญญาต่างๆ เรียบร้อยหมดแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image