‘เอฟไอวีบี’ แนะวอลเลย์ไทยอย่ายึดติดตัวเก๋าลุยปั้นเด็กดาวรุ่งทดแทน

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วย ดร.สมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เข้าพบเพื่อหารือด้านกีฬากับ ฟาบิโอ อาเซเวโด ผอ.ทั่วไปสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ(เอฟไอวีบี) ร่วมด้วยนายธนธรณ สุวรรณมัย เจ้าหน้าที่ปฎิบัติการของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ที่สำนักงานสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ นครโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 16 มกราคม

ดร.ก้องศักด กล่าวหลังจากการหารือว่า กกท.ในฐานะองค์กรกีฬาจากไทยและสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯ จะร่วมเซ็นเอ็มโอยู กับเอฟไอวีบี เพื่อร่วมกันพัฒนาวงการวอลเลย์บอลไทยให้สามารถคว้าโควต้าไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสให้ได้ หลังจากที่พลาดหวังมาตลอดในหลายครั้งหลัง จะต้องวางแผนร่วมกันตั้งแต่เนิ่นๆ เรื่องโปรแกรมการแข่งขันระดับนานาชาติ ไทยมีความสามารถในการจัดรายการระดับโลกได้ดีมาก และรายการสำคัญมากของวงการตบลูกยาง นอกจากโอลิมปิกเกมส์ ยังมีรายการเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ ที่แข่งขัน 4 ปีครั้ง เหมือนกับฟุตบอลโลก เอฟไอวีบีได้สนับสนุนให้ไทยพิจารณาเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ ปี 2026 อีก 6 ปีข้างหน้า ถือว่าเป็นงานใหญ่ที่สุดของวอลเลย์บอลในช่วงนั้น

 

ส่วนประเด็นที่นักตบสาวทีมชาติไทยตัวเก๋าที่ประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปแล้ว และที่ยังเล่นต่อไปนั้น ดร.ก้องศักดกล่าวว่า เอฟไอวีบีให้คำแนะนำว่า ในการพัฒนาอย่าไปยึดติดมาก ให้สร้างนักกีฬาใหม่ๆ ขึ้นมา แต่ไม่อยากให้ตั้งเป้าว่าจะต้องเป็นแชมป์ทุกรุ่น เยาวชน 13, 14, 15 ปี ไม่จำเป็นต้องเป็นแชมป์ แต่ให้เลือกนักกีฬาที่มีส่วนสูงมาก เล่นไม่เป็นไม่เป็นไร เอามาฝึกกันได้ เมื่อฝึกซ้อมไปจะเล่นได้ แต่คนที่เก่งในระดับเยาวชนแต่ตัวเล็ก พอโตไปก็ไม่สามารถสู้ต่างชาติได้ ไม่สามารถไปต่อได้ เมืองไทยมีดาวรุ่งขึ้นมาเยอะ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image