หมัดไทยช่วงพักโควิด-19 เตรียมพร้อมลุยโอลิมปิก
สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย กำลังเตรียมความพร้อม สำหรับการเคลื่อนไหวไปสู่งานใหญ่เบื้องหน้าอยู่ในขณะนี้
ขณะนี้เป็นช่วงเวลาของการหยุดพักการทำกิจกรรมทุกอย่าง อันเป็นพิษสงมาจากไวรัส “โควิด-19” ที่ทำให้สังคมไทย สังคมมนุษย์ เกือบทั่วโลกต้องหยุดนิ่ง ราวกับนัดกันไว้ และรอห้วงเวลาของการเคลื่อนไหว เริ่มต้นใหม่กันอีกครั้งหนึ่ง
คีย์แมนของสมาคมกีฬามวยสากลฯ นำโดย พิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคม, สมชาย พูลสวัสดิ์ อุปนายกและประธานเทคนิค, วินัย รอดจ่าย อุปนายก, พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการ และสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม ประธานที่ปรึกษา ฯลฯ ล้วนมีการหารือกันมาเป็นระยะๆ และกำหนดนัดคุยใหญ่กันในเร็วๆ นี้ว่า จะเริ่มต้นทำอะไรกันต่อไป
ทีมมวยสากลไทยหยุดการซ้อม การเก็บตัวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 หลังจากทีมชาติไทยชุดคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2020 กลับมาจากจอร์แดนแล้ว นักมวย ผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ต่างกลับไปกักตัวและเก็บตัวที่บ้าน โดยนักมวยทุกคนต้องเก็บสภาพความพร้อมร่างกาย และน้ำหนักตัว ด้วยการซ้อมอยู่ที่บ้านตามโปรแกรมที่ผู้ฝึกสอนกำหนดให้ เพื่อรอการกลับคืนสู่การเก็บตัว ฝึกซ้อมตามเดิมต่อไป
ท่ามกลางสถานการณ์ร้ายแรงของไวรัส “โควิด-19” ทั่วโลก โปรแกรมการแข่งขันมวยสากลระดับนานาชาติทั่วไป ต่างพากันงดหรือ ยุติบทบาทกันไปโดยปริยาย และรอการยืนยันเมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนโปรแกรมการแข่งขันของทวีปเอเชียนั้น มีการแจ้งล่วงหน้ากันไว้ว่า ภายในปีนี้ ค.ศ.2020/พ.ศ.2563 จะมีการแข่งขันกันอีก 3 รายการ แต่ยังไม่กำหนดวันเวลาที่แน่นอน คือ
1.การแข่งขันมวยสากลยุวชน (ชาย-หญิง) ชิงแชมป์เอเชีย ค.ศ.2020
2.การแข่งขันมวยสากลเยาวชน (ชาย-หญิง) ชิงแชมป์เอเชีย ค.ศ.2020
3.การแข่งขันมวยสากลประชาชน (ชาย-หญิง) ชิงแชมป์เอเชีย ค.ศ.2020
ทั้งนี้ สมาคมมวยสากลแห่งอินเดีย ประกาศความพร้อมล่วงหน้าไว้แล้วว่า จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมวยสากลประชาชน (ชาย-หญิง) ชิงแชมป์เอเชีย ค.ศ.2020 แน่นอน กำหนดจัดในเดือนพฤศจิกายน หรือธันวาคมนี้ ส่วนที่จัดนั้น ยังไม่ยืนยันว่า จะเป็นเมืองใด
นั่นคือ โปรแกรมระดับทวีปเอเชียซึ่งทีมชาติไทยต้องขึ้นทะเบียนรอกันไว้ พร้อมๆ กับรายการแข่งขันในประเทศ ปีนี้ ที่มีรายการระดับนานาชาติ คือ การแข่งขัน มวยสากลนานาชาติ (ชาย-หญิง) ไทยแลนด์ โอเพ่น ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี ค.ศ.2020/พ.ศ.2563 จองคิวไว้ในเดือนพฤศจิกายนหรือ เดือนธันวาคมนี้…..
โดยมีการแข่งขัน มวยสากลนานาชาติ (ชาย-หญิง) ไทยแลนด์ ซีรี่ส์ ค.ศ.2020/พ.ศ.2563 กระจายรอจัดในช่วงเดือนกันยายน, ตุลาคม, พฤศจิกายน และธันวาคมนี้
สำหรับการแข่งขันรายการระดับชาติ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย เช่น มวยสากลเยาวชน-ยุวชน (ชาย-หญิง) ชิงแชมป์ประเทศไทย พ.ศ.2563 และ มวยสากลประชาชน (ชาย-หญิง) ชิงแชมป์ประเทศไทย พ.ศ.2563 และกิจกรรมอื่นๆ ต้องรอการพิจารณาตามแต่สถานการณ์ และความจำเป็น
นั่นคือ ภาพรวมของกิจกรรมกีฬามวยสากลของเมืองไทย โดยทั่วไป
ขณะที่ไฮไลต์ของการพิจารณาเรื่องราวทั้งหมด ของบรรดาคีย์แมนสมาคมกีฬามวยสากลฯ นั้น อยู่ที่ว่า จะทำอย่างไรเพื่อให้นักมวยไทยได้เข้ารอบสุดท้ายของมวยสากลใน กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2020 ซึ่งเลื่อนไปแข่งขันในปีหน้า ให้มากที่สุด และดีที่สุด
สำหรับนักมวยไทยที่ได้สิทธิเข้าแข่งขันรอบสุดท้ายของมวยสากลใน กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2020 แล้ว ทั้งหมด 4 คนด้วยกัน แยกเป็นชาย 2 คน คือ ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด, ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี และเป็นหญิง 2 คน คือ สุดาพร สีสอนดี, ใบสน มณีก้อน
ส่วนแผนการเก็บตัว ฝึกซ้อมของทีมชาติไทยนับจากบัดนี้เป็นต้นไป แน่นอนว่า ย่อมต้องเข้มข้นเป็นพิเศษสำหรับ 4 นักมวยที่ได้สิทธิแข่งขันใน กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2020 เรียบร้อยแล้ว อีกด้านหนึ่ง ต้องเน้นเป็นพิเศษสำหรับนักมวยไทยที่เหลือ ที่ยังต้องลุ้นรอบคัดเลือกกันต่อไป ไม่ว่าจะเป็น นิลดา มีคุณ, จุฑามาศ จิตรพงศ์, จุฑามาศ รักสัตย์, นิลาวัลย์ เตชะสืบ ในทีมหญิง และ อธิชัย เพิ่มทรัพย์, วุฒิชัย มาสุข, วีระพล จงจอหอ และคนอื่นๆ ในทีมชาย
ว่าไปแล้ว นักมวยไทยชุดหลังที่ต้องรอการคัดเลือกตัวไป กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2020 นั้น ย่อมมีความหมาย มีความสำคัญมากเป็นพิเศษ ไม่ด้อยไปกว่าชุดแรกที่ได้เข้ารอบสุดท้ายไปแล้ว
ดังนั้น ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับแผนการเก็บตัว ฝึกซ้อม และตระเวนแข่งขันเพื่อเตรียมความพร้อม ความแข็งแกร่ง ของทีมชาติไทย ตั้งแต่ต้นไปจนจบต่อไป ในขณะที่ขณะนี้คิวการแข่งขันมวยสากลรอบคัดเลือก กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2020 ทั้งหลาย ยังไม่มีอะไรคืบหน้าออกมาจาก คณะทำงานเทคนิคของ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เลยแม้แต่น้อย
หากนับระยะเวลานับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป จนถึงปีหน้า จนถึงช่วงเดือนสิงหาคม 2564 อันเป็นห้วงเวลาแข่งขัน กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2020 ที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น นั้น จะเป็นเวลาหลายเดือนแค่ไหนก็ตาม แต่ก็มิได้หมายความว่า ทุกอย่างจะทำให้นักมวยไทย ทีมชาติไทย ต้องรอกันอย่างเดียว แต่กลับต้องเตรียมความพร้อม เพื่อการแข่งขันให้มากที่สุด ดีที่สุด ให้ได้
นี่คือ ภารกิจสำคัญสุดยอดของบรรดาคีย์แมน ผู้บริหาร รวมทั้งนักมวย ผู้ฝึกสอนของทีมชาติไทย ที่ต้องร่วมมือ ร่วมใจกันทำงานใหญ่ของตนเองกันให้ดีที่สุด
กับการท้าทายที่สำคัญยิ่งนัก…!!!
