เปิดศึกกีฬาผู้สูงอายุ ไทยแลนด์ มาสเตอร์เกมส์ พิพัฒน์ ชี้ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการแถลงข่าวการแข่งขันกีฬาสูงอายุ “ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์ส เกมส์” ครั้งที่ 1 โดยมี พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ ประธานอำนวยการแข่งขัน, นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และนายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส เลขาธิการสมาคมกีฬาผู้สูงอายุไทย ประธานฝ่ายจัดการแข่งขัน ร่วมด้วยที่โรงแรมแกรนด์ โฟร์วิงส์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 กันยายน
การแข่งขันจะมีขึ้นวันที่ 13-20 กันยายน 2563 ซึ่งมีการชิงชัย 14 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา, ว่ายน้ำ, แบดมินตัน, ฟุตบอล, กอล์ฟ, เกทบอล, บาสเกตบอล, ลีลาศ, ตะกร้อ, เพาะกาย, เปตอง, เทเบิลเทนนิส, วู๊ดบอล และเทนนิส จัดขึ้นที่สนามกีฬา กกท. และสนามนอกพื้นที่บางกีฬา โดยมีพิธีเปิดในวันที่ 13 กันยายน ที่ชั้น 4 เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ กรุงเทพฯ
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็น ครั้งแรกของประเทศไทย และเป็นการปรับเปลี่ยนจากการแข่งขันกีฬาสูงอายุนานาชาติ จากภาวะวิกฤตของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม การจัดการแข่งขันครั้งนี้ ยังคงวัตถุประสงค์ของการแข่งขัน เพื่อการพัฒนามาตรฐานกีฬา และสร้างคุณค่าทางสังคม เพื่อให้ประชาชนในกลุ่มผู้สูงอายุมีโอกาสเข้าถึงกิจกรรมกีฬาการสร้างเสริมคุณภาพชีวิต เป็นปัจจัยเชิงสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ลงทุนน้อยที่ให้ประโยชน์ตอบแทน
ขณะที่ พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ ประธานกรรมการอำนวยการ กล่าวว่า ความพร้อมของการเตรียมการโดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมกีฬาที่มีการแข่งขันทั้ง 14 สมาคม และการกีฬาแห่งประเทศไทย และคาดหมายว่าการแข่งขันครั้งนี้ จะบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายเป็นประโยชน์ต่อสังคมและในมิติของมาตรฐานกีฬาอย่างยิ่ง
นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า การให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์ ของ กกท เป็นไปตามนโยบายและแผนงานการจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมกีฬา ได้ตั้งงบประมาณ สนับสนุนเป็นเงิน 17.8 ล้านบาท และต้องขอขอบคุณความร่วมมือของคณะกรรมการจัดการแข่งขันและสมาคมกีฬาต่างๆ ที่ได้ช่วยผลักดันให้การแข่งขันครั้งนี้ ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย
นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส เลขาธิการสมาคกีฬาผู้สูงอายุไทย และประธานฝ่ายจัดการแข่งขัน เปิดเผยว่า การแข่งขันมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อการยกระดับมาตรฐานการแข่งขันกีฬาสูงอายุในประเทศให้ทัดเทียมกับมาตรฐานสากล และการพัฒนาระบบกีฬาสูงอายุของไทย ให้เป็นนวัตกรรมก่อประโยชน์ต่อการสร้างคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ได้ปฏิบัติตามธรรมนูญและกติกาการแข่งขันของสากล
มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน รวม 3,752 คน จำนวนนี้มีนักกีฬาชาวต่างประเทศที่พำนักในประเทศไทยสนใจเข้าร่วมการแข่งขัน และเป็นที่น่ายินดีว่ามีอดีตนักกีฬาทีมชาติที่เป็นไอดอลของคนกีฬาในอดีตได้หวนคืนสนามเข้าร่วมการแข่งขันอีกจำนวนไม่น้อย ทั้งนี้การเข้าแข่งขันของนักกีฬาทุกคนจะต้องปฏิบัติตามมาตราการความปลอดภัย และมาตรการควบคุมการระบาดเชื้อไวรัสของภาครัฐ โดยเคร่งครัด การแข่งขัน รายการนี้ได้เตรียมการและการดำเนินการจัดการแข่งขันตามมาตรฐานสากลเรียบร้อย
โปรแกรมการแข่งขันทั้งหมด 14 ชนิดกีฬา ดังนี้ เพาะกาย ระหว่างวันที่ 17-20 กันยายน 2563 ที่ ศูนย์การค้า เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9, แบดมินตัน ระหว่างวันที่ 15-20 กันยายน 2563 ที่ พระราม 2 ฮอลล์ ศูนย์การค้า เซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 2, บาสเกตบอล ระหว่างวันที่ 13-18 กันยายน 2563 ที่ สนามบาสเกตบอล ศูนย์ฝึกกีฬาในร่ม การกีฬาแห่งประเทศไทย, เทเบิลเทนนิส ระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2563 ที่ไอส์แลนด์ฮอลล์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์, เทนนิส ระหว่างวันที่ 12-19 กันยายน 2563 ที่สนามเทนนิสปิรามิด เอฟบีที สปอร์ต ปาร์ค ลาดกระบัง ,ตะกร้อ ระหว่างวันที่ 17-19 กันยายน 2563 ที่ อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก, กอล์ฟระหว่างวันที่ 15-16 กันยายน 2563 ที่ สนามอาทิตยากอล์ฟ แอนด์รีสอร์ท จังหวัดนครนายก, กรีฑา ระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน 2563 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย,วู้ดบอล ระหว่างวันที่ 13-18 กันยายน 2563 ที่ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น)
เปตองแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2563 ที่ สนามสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย หัวหมาก, ว่ายน้ำ ระหว่างวันที่ 16-19 กันยายน 2563 ที่ สระว่ายน้ำการกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก, ลีลาศ ระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน 2563 ที่ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย ,เกทบอล ระหว่างวันที่ 13-16 กันยายน 2563 ที่ ลานหญ้าอเนกประสงค์ การกีฬาแห่งประเทศไทยและ สมาคมฟุตบอล ระหว่างวันที่ 11-20 กันยายน 2563 ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย
