ยิงปืนเปิดรับสมัครสมาชิก ตัดปัญหาแบ่งก๊กแบ่งกลุ่ม เน้นทีมชาติต้องมาอันดับแรก
นายสกล วรรณพงษ์ นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เข้ามาบริหารงานสมาคมกีฬายิงปืนฯ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ได้มีการปรับเปลี่ยน และวางระบบใหม่หลายอย่าง เพื่อให้การทำงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ และสอดคล้องกับกฎระเบียบของการกีฬาแห่งประเทศไทย มีทั้ง จัดตั้งคณะกรรมการบริหารซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ทั้งอดีตผู้บริหารชุดรักษาการณ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย รวมทั้งสื่อมวลชน เข้ามาร่วมกันบริหารงานอย่างเป็นระบบ มีการจัดการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย จัดการแข่งขันคัดเลือกนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย อีกทั้งยังจัดการแข่งขันประเภทเยาวชน เพื่อมุ่งหวังให้พัฒนาเป็นตัวแทนทีมชาติต่อไปในอนาคต รวมถึงการเรียกนักกีฬาชุดเอเชี่ยน อินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ตเกมส์, ชุดเตรียมโอลิมปิกเกมส์ และ ชุดเตรียมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ เข้าทำการเก็บตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่สมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย หัวหมาก ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ยังได้ประกาศเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ ประจำปี 2564 โดยกำหนดเปิดรับสมัครผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ระหว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 80.30-16.00 น. โดยไม่มีวันหยุดราชการ ทั้งนี้ ผู้ที่มีความประสงค์สมัครเป็นสมาชิกของสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย จะต้องเป็นนักกีฬายิงปืน สังกัดสโมสร หรือ ชมรมกีฬายิงปืนแห่งใดแห่งหนึ่งที่จดทะเบียบถูกต้องตามกฏหมาย , ต้องไม่มีประวัติเสีย หรือ เคยถูกดำเนินดดีทางกฎหมาย, ต้องไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งเสพติดให้โทษ ที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด และเมื่อคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว จะมีการประกาศให้ทราบในวันที่ 1 มกราคม 2564
นายสกลกล่าวว่า ขณะนี้สมาคมกีฬายิงปืนกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นสมาคมที่มีความสมบูรณ์เหมือนเช่นทุกสมาคมที่ลงท้ายด้วยคำว่า “แห่งประเทศไทย” เนื่องจากมี นายกสมาคมบริหารงานอย่างถูกต้อง การเปิดรับสมัครสมาชิกสมทบบุคคล, สมาชิกกิตติมศักดิ์, สมาชิกสมทบเยาวชน เพื่อเป็นการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกในการพัฒนาการทำงานของผู้บริหาร, การพัฒนานักกีฬาทีมชาติ และ การพัฒนาสโมสร รวมถึง ชมรม ให้พัฒนาไปสู่เป้าหมายเดียวกัน โดยการทำงานทุกอย่างเน้นความโปร่งใส และต้องไม่มีการแบ่งก๊ก แบ่งกลุ่ม ไม่มีการแอบแฝง ไม่มีผลประโยชน์ ทุกอย่างให้คำนึงถึงผลงานของนักกีฬา และ ชื่อเสียงของประเทศไทยชาติเป็นอันดับแรก
