‘เดอ บรอยน์’ พลาดจุดโทษ! ‘แมนฯ ซิตี้’ เปิดบ้านเจ๊า ‘ลิเวอร์พูล’ 1-1
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก คู่บิ๊กแมตช์ประจำวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน เจ้าบ้าน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เปิดบ้านรับมือแชมป์เก่า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ของกุนซือสมองเพชรอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์
แมนฯ ซิตี้ มาในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย เอแดร์ซอน โมราเอส; ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมอริค ลาปอร์กต์, เจา คันเซโล, เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน, เฟร์ราน ตอร์เรส, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง
ส่วนลิเวอร์พูล มาในระบบ 4-2-3-1 ได้แก่ อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, โจ โกเมซ, แอนดริว โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, ดิโอโก้ โจต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน, ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ลิเวอร์พูลมาได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็จจากจุดโทษนาที 11 จากจังหวะที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ ไปกระแทก ซาดิโอ มาเน่ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สังหารไม่พลาด ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0
แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูตีเสมอนาที 31 ไคล์ วอล์คเกอร์ พาบอลมาทางกราบขวาก่อนไหลให้ เควิน เดอ บรอยน์ พลิกบอลก่อนไหลให้ กาเบรียล เชซุส พลิกบอลหนี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก่อนจิ้มหัวเกือกผ่านมือ อลิสซอน เข้าประตู แมนฯซิตี้ ตีเสมอ 1-1
เรือใบมาได้จุดโทษบ้างนาที 39 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลไปโดนแขนของ โจ โกเมซ ผู้ตัดสินเดินไปดู VAR ด้วยตัวเอง ก่อนชี้เป็นจุดโทษ เดอ บรอยน์ รับหน้าที่สังหารแต่เจ้าตัวยิงหลุดกรอบน่าเหลือเชื่อ สกอร์ยังเท่ากัน 1-1
ครึ่งหลัง ทำสองทีมเล่นกันอย่างระมัดระวัง ไม่ทิ้งหลังลอยขึ้นสูง ทำให้เจาะกันยาก และทำประตูเพิ่มกันไม่ได้ จบเกมเสมอกันไป 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม
ลิเวอร์พูล เตะ 8 นัด มี 17 แต้ม อยู่อันดับ 3 ส่วนแมนฯ ซิตี้ เตะ 7 นัด มี 12 แต้ม อยู่อันดับ 11
ส่วนผลอีกคู่
อาร์เซน่อล พังคารังพ่าย แอสตัน วิลล่า 0-3
