‘โชต้า-ฟาบินโญ่’ คัมแบ็ก ‘หงส์แดง’ เปิดรังพบ ‘สิงห์บลูส์’ แย่งชิงพื้นที่ชปล.

‘โชต้า-ฟาบินโญ่’ คัมแบ็ก ‘หงส์แดง’ เปิดรังพบ ‘สิงห์บลูส์’ แย่งชิงพื้นที่ชปล.

เกมพรีเมียร์ลีก บิ๊กแมตช์ประจำกลางสัปดาห์นี้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมอันดับที่ 6 ของตาราง เปิดรังพบกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมอันดับที่ 5 ที่สนามแอนฟิลด์ แข่งขันในคืนวันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม เวลา 03.15 น. ตามวันและเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่องทรูพรีเมียร์ ฟุตบอล เอชดี 1

ผลงานที่ผ่านมา

ลิเวอร์พูล
ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2 (พรีเมียร์ลีก)
ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 2-0 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก)
แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-3 (พรีเมียร์ลีก)
แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-4 (พรีเมียร์ลีก)

เชลซี
เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 (พรีเมียร์ลีก)
ชนะ แอตเลติโก้ มาดริด 1-0 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก)
เสมอ เซาแธมป์ตัน 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
ชนะ นิวคาสเซิล 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
ชนะ บาร์นสลีย์ 1-0 (เอฟเอ คัพ)

Advertisement

สถิติการพบกันในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูล ชนะ 23 นัด เสมอ 14 นัด เชลซี ชนะ 20 นัด

ผลงานการพบกัน 5 นัดหลังสุดในลีก
20/09/2020 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2
22/07/2020 ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 5-2
22/09/2019 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
14/04/2019 ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 2-0
29/09/2018 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1

สภาพทีม
เกมนี้หงส์แดง จะได้ฟาบินโญ่ และดิโอโก้ โชต้า 2 ผู้เล่นที่ได้รับอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้กลับมาช่วยทีม รวมถึงผู้รักษาประตูเบอร์ 1 ของทีมอย่างอลิสซอน เบ็คเกอร์ กลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง หลังเจ้าตัวเพิ่งสูญเสียคุณพ่อ จากเหตุการณ์จมน้ำเสียชีวิต ส่วนผู้เล่นเกมรุกไม่มีปัญหา พร้อมส่ง 3 ประสานในแดนหน้าอย่างซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงสนาม

Advertisement

ส่วน เชลซี ถือว่าค่อนข้างมีความพร้อมในเกมนี้ จะมีก็เพียงแต่คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ที่ต้องรอเช็กอาการบาดเจ็บ หลังถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ครึ่งเวลาแรกในเกมเปิดบ้านเสมอ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน รวมถึงกองหลังตัวเก๋าอย่างติอาโก้ ซิลวา ที่ต้องรอลุ้นสภาพความพร้อมอีกครั้งก่อนลงสนาม ส่วนมาร์กอส อลอนโซ่ จะกลับมามีชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงอีกครั้ง หลังเกมที่ผ่านมามีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรอง

11 ผุ้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล : อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ติอาโก้ อัลคันทาร่า, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, เคอร์ติส โจนส์, ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และโรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่

เชลซี : เอดูอาร์ เมนดี้, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช, มาร์กอส อลอนโซ่, ฮาคิม ซีเยช, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และติโม แวร์เนอร์

บทวิเคราะห์
หงส์แดงเพิ่งปลดล็อคตัวเอง ด้วยการเอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดไป 2-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก หลังที่ก่อนหน้านี้พ่ายแพ้เกมลีกติดต่อกันถึง 4 นัด บวกกับตอนนี้บรรดาผู้เล่นที่ได้รับอาการบาดเจ็บ อย่างฟาบินโญ่ และดิโอโก้ โชต้า เริ่มทยอยกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง รวมถึงสภาพจิตใจของทีมถือว่ามีทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนเชลซี ภายใต้การนำทัพของโธมัส ทูเคิ่ล ยังคงไม่แพ้ใครมาติดต่อกันถึง 9 นัด และเสียประตูไปเพียง 2 ลูกเท่านั้น เรียกได้ว่าทีมสิงห์บลูส์อยู่ในช่วงขาขึ้น เพราะลูกทีมของทูเคิ่ล พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาสามารถสู้กับทีมใหญ่ๆ ได้ดี ทั้งการชนะแอตเลติโก้ มาดริด และเปิดบ้านเสมอกับแมนฯยู ยังไม่เสียประตูในเกมบิ๊กแมตช์ แต่ถ้าหากพูดถึงเรื่องสถิติ ช่วงหลัง เชลซีดูเหมือนจะแพ้ทางหงส์แดง เพราะยังไม่เคยเอาชนะยอดทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ได้เลยในเกมลีกช่วง 5 นัดหลังสุด แพ้ไปถึง 4 และเสมอไป 1 นัด

อย่างไรก็ตาม เกมนี้มีผลของการแย่งชิงพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกเป็นเดิมพัน หากใครสามารถช่วงชิงชัยชนะในนัดนี้ไปได้ จะส่งผลดีต่อทีมเป็นอย่างมาก แถมเป็นการพบกันของสุดยอดกุนซือสมองเพชรชาวเยอรมัน เชื่อว่าทั้งคู่จะสู้กันอย่างสูสี และคงไม่มีใครยอมใครแน่นอน เพื่อรักษาความได้เปรียบของทีมเอาไว้

สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล 1-1 เชลซี

โปรแกรมการแข่งขันคู่อื่นๆ

วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564
03.00 น. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส

วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม 2564
01.00 น. เบิร์นลี่ย์ เอฟซี พบ เลสเตอร์ ซิตี้
01.00 น. เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พบ แอสตัน วิลล่า
03.15 น. คริสตัล พาเลซ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564
01.00 น. เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน พบ เอฟเวอร์ตัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image