เดือดแน่ศึกหนีตาย! ‘สุโขทัย’ ลั่นมีหมัดน็อก ‘สุพรรณบุรี’ อยู่รอดไทยลีก
นายเบนจามิน ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและตรวจสอบใบอนุญาตสโมสร สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นประธานแถลงข่าวออนไลน์ มีท เดอะ วอริเออร์ พร้อมด้วย “โค้ชพร” สถาพร วาจาขำ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมสุพรรณบุรี เอฟซี, “โค้ชวอ” วรวุฒิ วังสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนสุโขทัย เอฟซี, “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น กุนซือใหญ่ของทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี และ “โค้ชอู๊ด” สระราวุฒิ ตรีพันธ์ เฮดโค้ชการท่าเรือ เอฟซี เข้าร่วม เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ก่อนเกมการแข่งขันนัดสุดท้ายของฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2020” คู่ระหว่าง “ช้างศึกยุทธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 14 ตาราง พบ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี ทีมอันดับ 13 แข่งขันวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม ที่สนามกีฬากลาง จ.สุพรรณบุรี แข่งพร้อมกันทุกคู่ ทุกสนามเวลา 18.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง MCOT HD
สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ หลังจากที่ สุพรรณบุรี เก็บชัยชนะนัดตกค้างกับ “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้ 2-1 ทำให้เหลือแต้มตามหลังสุโขทัยเพียง 1 คะแนน ต้องการชัยชนะเพื่อการอยู่รอดในลีกสูงสุดของไทย ในขณะที่สุโขทัยขอเพียงผลเสมอเป็นอย่างน้อย ก็จะได้โลดแล่นในไทยลีก 1 ต่อไป
โค้ชพร กล่าวว่า เกมนี้สุพรรณบุรีค่อนข้างมีความพร้อม จะขาดก็เพียงแค่ กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ ที่สะสมใบเหลืองครบเพียงคนเดียว แต่จะได้ 2 ผู้เล่นตัวหลักอย่าง สุพรรณ ทองสงค์ และประสิทธิ์ จันทุม กลับมาช่วยทีม ส่วนความกังวลเรื่องความเหนื่อยล้าหลังจากเพิ่งลงแข่งขันกับเชียงรายไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ยอมรับว่าอาจมีอาการล้าบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่จะเอามาคิดมากไม่ได้ ถ้าเกมนี้เราไม่พร้อมก็จะไม่มีสุพรรณบุรีในไทยลีก 1 ฤดูกาลหน้า เพราะฉะนั้นต้องลืมอันดับตารางคะแนน ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วมาโฟกัสกับเกมนัดสุดท้ายนี้
“แมตช์นี้จะไม่สำคัญเลย ถ้าเราไม่สามารถเอาชนะเชียงรายเก็บ 3 แต้มสำคัญมาได้ จนทำให้นักเตะ ทีมงานสต๊าฟโค้ชได้ความเชื่อมั่น และกำลังใจกลับมาขึ้นเยอะ เพราะฉะนั้นเกมการเจอกับสุโขทัยอะไรก็สามารถเกินขึ้นได้” โค้ชพร กล่าว
ผู้ช่วยเฮดโค้ชสุพรรณบุรี กล่าวต่อว่า ตอนนี้ทุกคนโฟกัสไปที่คู่กองหน้าของทีมอย่าง แฮริสัน ไคออน และเลอันโดร อัสซัมเซา เพราะเป็นผู้เล่นที่สามารถยิงประตูได้บ่อยที่สุด เชื่อว่าคู่แข่งคงจะมาปิดทางเล่นของ 2 คนนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เล่นของเราก็มีคุณภาพทั้งหมด ไม่ใช่แค่เฉพาะ 2 ผู้เล่นบราซิลเลียนเท่านั้น ซึ่งทางสุพรรณบุรีเองก็ได้วางแผนเพื่อจัดการ 2 ผู้เล่นอย่าง จอห์น บาจโจ้ และอิปสัน เมโล่ ไว้บ้างแล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในเกมวันนั้นด้วย ก็ต้องเล่นกันอย่างรัดกุมที่สุด เพราะถ้าเราพลาดก่อน อาจทำให้สถานการณ์ของเกมเปลี่ยนได้
“เกมที่แล้วเราเซอร์ไพรส์มาก ที่แฟนบอลเข้ามาให้กำลังใจในสนามเยอะมาก เพราะฉะนั้นเกมนัดสุดท้ายนี้ ขอเชิญชวนแฟนบอลชาวสุพรรณบุรีทุกคนเข้ามาให้กำลังใจเยอะๆ พวกเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักเตะ หรือทีมงานสต๊าฟโค้ช สัญญาว่าจะทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อให้ฤดูกาลหน้าแฟนบอลชาวสุพรรณจะยังคงได้ดู สุพรรณบุรี เอฟซี ในไทยลีกต่อไป” โค้ชพร กล่าว
ทางด้านโค้ชวอ กล่าวว่า ตอนนี้ทีมมีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีผู้เล่นที่บาดเจ็บ หรือติดโทษแบน ถือว่าทีมโชคดีพอสมควรที่ทีมได้พักมา 1 สัปดาห์เต็มๆ บวกกับมีคะแนนที่เหนือกว่าคู่แข่ง 1 แต้ม ซึ่งก็ได้ศึกษาฟอร์มการเล่นของสุพรรณบุรีพอสมควร ทำการบ้านมาอย่างดี รู้ว่าช้างศึกยุทธหัตถีมี 2 ผู้เล่นแนวรุกที่หน้ากลัว มีความเร็ว ทำประตูได้บ่อยครั้ง แต่เราเองก็มีอาวุธไว้ตอบโต้คู่แข่งไว้เหมือนกัน เพราะทีมยังมี จอห์น บาจโจ้ และอิปสัน เมโล่ ที่ทำสกอร์ให้ทีมรวมกันไปแล้วเกือบ 30 ลูก บวกกับนักเตะไทยของทีมหลายคนก็มีความสามารถพอสมควร เช่น ลีออน เจมส์ หรือศิลา ศรีกำปัง เชื่อว่าน้องๆ จะทำผลงานได้ดีในเกมนัดนี้
ผู้ช่วยเฮดโค้ชค้างคาวไฟ กล่าวถึงกรณีที่แมตช์นี้จะได้วีเออาร์มาช่วยในการตัดสินว่า การมีวีเออาร์ก็เป็นเรื่องที่ดี ที่จะมาช่วยผู้ตัดสินในการตัดสิน แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ตัดสิน ที่จะตัดสินให้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์มากที่สุด เชื่อว่าก็จะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งก็อยากเชิญชวนแฟนบอลชาวสุโขทัยร่วมเดินทางมาให้กำลังที่สนาม เพื่อมาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรในการอยู่รอดในลีกสูงสุดของไทยต่อไป
ขณะที่อีกคู่ที่น่าสนใจเป็นเกมระหว่าง “สวาดแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ทีมอันดับ 9 เปิดรังต้อนรับการมาเยือน “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ทีมอันดับ 3 ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา จ.นครราชสีมา แข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม เวลา 18.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่องเอไอเอส เพลย์
โค้ชโจ กล่าวว่า สภาพทีมตอนนี้ไม่มีผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บ หรือติดโทษแบน แต่จะต้องรอเช็กความพร้อมของชิดชนก ไชยแสนสุรินธร และอมาดู อ็อตตาร่า ก็ต้องดูกันอีกครั้งว่าจะกลับมามีชื่อในเกมนี้ได้หรือไม่ ยอมรับว่าแมตช์นี้ไม่ได้มีผลอะไรกับทีม แต่จะจัด 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม ทำให้เกมนี้ให้เป็นเกมที่สนุก เพื่อให้เกียรติกับทางท่าเรือ และแฟนบอลชาวโคราช เพราะเป็นเกมสุดท้ายในบ้าน เชื่อว่าจะมีแฟนบอลเข้าสนามเกินหลักหมื่น และอยากมีผลการแข่งขันที่ดี
กุนซือนครราชสีมา กล่าวต่อว่า สิงห์เจ้าท่า เป็นทีมที่แข็งแกร่ง มีตัวผู้เล่นสำรอง และชุดใหญ่ที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะจัดชุดไหนมา ก็ถือว่าอันตรายสำหรับสวาดแคทพอสมควร ถ้าเราเล่นกันได้ไม่ดี ก็อาจจะโดนท่าเรือลงโทษได้ เพราะคู่แข่งมีผู้เล่นอย่าง เซร์คิโอ ซัวเรซ, ยานนิค โบลี และเนลสัน โบนีญ่า สามารถตัดสินเกมได้ ซึ่งก็ต้องไม่ประมาท วางแทคติกให้ละเอียด และทำเกมนี้ออกมาให้ดีที่สุด เพื่อให้คุ้มค่าตั๋วของแฟนบอลที่จะเข้ามารับชมในสนาม
เฮดโค้ชสวาดแคทกล่าวถึงอนาคตของเดนนิส มูริลโล่ ศูนย์ตัวเก่งของทีมว่า ตอนนี้เจ้าตัวยังมีความสุขกับทีม แต่ฟุตบอลเรื่องของความเป็นมืออาชีพก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น สโมสรเองก็อยากให้เดนนิสอยู่ต่อ ซึ่งตอนนี้ก็ได้เริ่มมีการเจรจากันไว้บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้สิ้นสุดกระบวนการ ก็ขึ้นอยู่กับทางเจ้าตัวว่าจะตัดสินในอนาคตตัวเองไว้ยัง ตนในฐานะเฮดโค้ชของทีมก็ยังอยากเห็นเดนนิส มูริลโล่ อยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า
ส่วนทางด้านโค้ชอู๊ดกล่าวว่า ทีมค่อนข้างมีความพร้อมพอสมควร ไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บ และติดโทษแบน พร้อมที่จะจัดตัวผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม เพราะการเจอนครราชสีมาชั่วโมงนี้ ถือว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และผู้เล่นสามารถจบสกอร์ได้ดี ได้วางหมากไว้ว่าต้องปิดทางผู้เล่นแนวลึกให้ได้ โดยเฉพาะ อมาดู อ็อตตาร่า และเดนนิส มูริลโล่ ที่เป็นผู้เล่นที่เล่นแนวลึกได้ดี ทีมก็ต้องซ้อม และหาวิธีป้องกัน รวมถึงลูกตั้งเตะให้ได้ ซึ่งตั้งเป้าหมายไว้ว่าอย่างน้อยๆ ต้องมีแต้มกลับออกมา
“หลังจบไทยลีกก็จะปล่อยให้นักเตะได้พักผ่อนก่อน และหลังจากนั้นก็จะมีการประชุมทีมกับผู้บริหารว่าจะมีแนวทางการเก็บตัว และฝึกซ้อมยังไง สำหรับการเตรียมทีมแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมแปี้ยนส์ลีกต่อไป” เฮดโค้ชสิงห์เจ้าท่ากล่าว
สำหรับโปรแกรมคู่อื่น ลงแข่งขันพร้อมกันในวันที่ 28 มีนาคม เวลา 18.00 น.
ตราด พบ ราชบุรี มิตรผล (เฟซบุ๊ค)
สิงห์ เชียงราย พบ สมุทรปราการ ซิตี้ (ททบ.5)
พีที ประจวบ พบ ทรู แบงค็อก (ยูทูป)
ระยอง พบ ชลบุรี (เฟซบุ๊ค)
เอสซีจี เมืองทอง พบ บีจี ปทุม (เอ็นบีที2)
บุรีรัมย์ พบ โปลิศ เทโร (ทีสปอร์ตส์)
