| ผู้เขียน | เอคูสติก |
|---|
คอลัมน์เกรียนเขียนบอล : โคตรสูสี
ศึกยูโรป้าลีก รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ บียาร์รีล จะฟาดแข้งกันในคืนวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ประเทศโปแลนด์
ถึงแม้ชื่อเสียงของทีมจะคนรุ่นกัน แต่แมตช์นี้บียาร์รีลมีกุนซือที่ชื่อ อูไน เอเมอรี่ โค้ชที่เป็นเจ้าพ่อของฟุตบอลรายการนี้อย่างแท้จริง เพราะเคยพาทีมเข้าชิงมาแล้ว 5 สมัย นับรวมบียาร์รีลในฤดูกาลนี้ด้วย
อูไนพาเซบีย่าเป็นแชมป์ 3 สมัยซ้อน ฤดูกาล 2013-2014, 2014-2015, 2015-2016 แถมยังเคยพา อาร์เซน่อล เข้ารอบชิงในฤดูกาล 2018-2019 ด้วย เรียกได้ว่ามีความช่ำชองในรายการนี้กว่าโค้ชคนไหนทั้งนั้น
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ยังไม่เคยคว้าแชมป์อะไรกับแมนฯยูเลย และเป็นครั้งแรกที่เขาพาทีมปีศาจแดงมาถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยได้สำเร็จ ถ้ามองชื่อทีม บียาร์รีลอาจจะด้อยกว่าแมนฯยู แต่ถ้ามองชื่อชั้นกุนซือจากผลงานในรายการนี้ อูไนดีกว่าโอเล่แน่นอน
แมนฯยูไม่มีดองหลังคนสำคัญอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่เจ็บข้อเท้าและไม่น่าจะหายทัน รวมทั้ง อองโตนี่ มาร์ซิยาล กองหน้าที่ไม่ค่อยมีความสำคัญกับทีมในฤดูกาลนี้อยู่แล้ว ส่วนคนอื่นๆ อยู่กันครบ
ด้านบียาร์รีล ซามูเอล ชุกวูเอเซ่ ปีกตัวเก่ง มีอาการเจ็บไปก่อนหน้านี้ และคาดกันว่าจะลงเล่นในยูโรป้าลีก รอบไฟนัลไม่ได้แน่ๆ แต่เมื่อดูสถานการณ์แล้ว ชุกวูเอเซ่มีแนวโน้มคล้ายๆ แม็กไกวร์ คือ อาจจะเซอร์ไพรส์เป็นตัวจริงในเกมนี้ด้วยซ้ำ อีกคนที่น่าห่วง คือ ฮวน ฟอยธ์ กองหลังชาวอาร์เจนไตน์ที่เจ็บจากเกมรอบรองชนะเลิศ ก็ยังต้องลุ้นกันตัวโก่ง
นักเตะเรือดำน้ำสีเหลืองทีมนี้ไม่ธรรมดา เต็มไปด้วยตัวเก๋าประสบการณ์สูง คาร์ลอส บัคก้า, ดานี่ ปาเรโฆ่, ปาโบล อัลกาเซร์, เคราร์ด โมเรโน่ ผ่านเวทีใหญ่ๆ กันมาถ้วนหน้า เกมรุกอันตราย แถมเกมรับก็ยังแน่น มี เปา ตอร์เรส เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเป้าหมายของแมนฯยูจะได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในเกมนี้ ราอูล อัลบิโอล, อัลแบร์โต้ โมเรโน่ ผ่านสมรภูมิกับทีมใหญ่มานักต่อนัก
ปีศาจแดงฤดูกาลนี้เป็นทีมที่เล่นในแมตช์ที่หวังผลได้ดี โซลชาร์วางแผนรัดกุม เล่นได้ตามเป้าที่วางไว้อยู่ตลอด ถึงแม้จะไม่มีแม็กไกวร์ จนทำให้ทีมสะเทือนไปบ้างในหลายนัดหลัง แต่ อีริค ไบยี่ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่จะได้กลับมาเจอทีมเก่า ก็น่าจะมีแรงฮึดเป็นพิเศษ ส่วนแนวรุกก็ถือว่าอันตรายทุกคน ความฟิตเต็มถัง เพราะ 11 ตัวจริง ได้พักเต็มที่กันถ้วนหน้า เว้นแต่ไบยี่ที่ลงเล่นในเกมปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีกเท่านั้น
ความศักดิ์สิทธิ์ของอูไนในยูโรป้าลีก ถูก เชลซี ทำลายไปเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน เพราะโดนถล่มเละเทะ 4-1 แต่ก็ไม่ใช่ว่าของดีในตัวจะหมดไปเสียที่ไหน แถมยังต้องเอาแชมป์เพื่อโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในซีซั่นหน้าอีก ขณะที่โอเล่ก็ต้องการแชมป์แรกของตัวเองกับแมนฯยู ความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมเช่นกัน
แมตช์นี้คาดเดาผลการแข่งขันยาก เพราะมาถึงรอบนี้แล้ว ไม่มีทีมไหนอยากผิดหวัง ก็คงต้องดูกันว่า ความเก๋าของกุนซือ และความเหนือกว่าของชื่อชั่นสโมสร อะไรจะเข้าป้าย
