ทัพไทยล็อกเป้าผงาดยึดเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ในชนิดกีฬาสากลต่อยอดสู่เอเชี่ยนเกมส์
ความเคลื่อนไหว การเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 12-23 พฤศจิกาน 2022 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งทางเจ้าภาพเวียดนาม ได้เลื่อนการชิงชัย จากเดือนพฤศจิกายนนี้ ไปเป็น กลางปีหน้า หลังจากช่วงเวลานี้ ยังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่
โดยก่อนหน้านี้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้เป็นประธานในการประชุมหารือแนวทางการเตรียมนักกีฬาเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ร่วมกับ พลเรือเอก สุรวุฒิ มหารมณ์ คณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทย เพื่อการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ รศ.ดร.สุพิตร สมาหิโต รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และคณะ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและบุคลากรกกท. ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. หัวหมาก ไปแล้ว
ทั้งนี้ การประชุมในครั้งดังกล่าว เป็นการร่วมกันพิจารณาถึงเป้าหมายและกลุ่มความคาดหวัง รวมถึงพิจารณาชนิดกีฬา อีเวนต์ และแนวทางการดำเนินงานด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ในการเก็บตัวฝึกซ้อมและส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ต่อไป
ดร.ก้องศักด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมเพื่อเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ครั้งล่าสุดนั้น ที่ประชุมได้วางเป้าหมายร่วมกัน ในการเป็นเจ้าเหรียญทอง ในกีฬาสากล เป็นหลัก เพื่อต่อยอดจากกีฬาซีเกมส์ ไปสู่เอเชียนเกมส์ หางโจว 2022 ที่เมืองหางโจวประเทศจีน ในเดือนกันยายน และโอลิมปิก ปารีส 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ต่อไป ส่วนกีฬาพื้นบ้าน ก็จะส่งเข้าร่วมการแข่งขัน แต่อาจไม่ครบทุกอีเวนต์
สำหรับทุกชนิดกีฬา ได้ประสานสมาคมกีฬา ให้นักกีฬาได้เริ่มการฝึกซ้อมแล้ว ซึ่งในส่วนของซีเกมส์ ก็จะให้นักกีฬาฝึกซ้อมต่อเนื่อง ทั้งการเตรียมไปซีเกมส์ ที่เวียดนาม ซึ่งเลื่อนจากปลายปีนี้ ไปเป็นกลางปีหน้า และซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในเดือนพ.ค. ปี 2023 ที่ประเทศกัมพูชา เลย ยังรวมไปถึงการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมนักกีฬาไป เอเชียนเกมส์ หางโจว 2022 อีกด้วย ซึ่งแผนเตรียมนักกีฬาจะสอดรับกัน เพื่อให้ทุกอย่างออกมาพร้อมที่สุด
“กกท. และคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ยังทำงานร่วมกันในการเตรียมนักกีฬา คัดเลือกนักกีฬา และส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้นักกีฬาทีมชาติไทย มีความพร้อมมากที่สุด และในสัปดาห์หน้า ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายนเป็นต้นไป กกท. จะได้ทยอยเชิญผู้แทนสมาคมกีฬา มาร่วมหารือถึงแผนการเตรียมนักกีฬา ร่วมกันอีกครั้ง” ดร.ก้องศักด กล่าวในตอนท้าย
