‘สุดสาคร ส.กลิ่นมี’ แพ้คะแนนนักสู้กุน แขมร์ – แจงดราม่าโดนทัวร์ลงยับ
หลังจากที่ สุดสาคร ส.กลิ่นมี ยอดนักชกชาวไทย ได้เดินทางไปขึ้นชกกับ พรม สำนัง ยอดนักสู้ เขมร ที่จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคู่เอกของรายการ
โดยทั้งคู่พยายามแลกหมัด เท้า เข่า ศอก กันอย่างสนุก สุดท้ายไม่มีใครน็อกใครได้ ครบ 3 ยก กรรมการชูมือให้ พรม สำนัง เป็นฝ่ายชนะ สุดสาคร ส.กลิ่นมี ได้สำเร็จ ต่อหน้า สเร จันทร รองประธานสหพันธ์กุน แขมร์ ซึ่งเป็นเศรษฐีที่เคยบอกจะมอบบ้าน เงิน รถ ให้นักสู้ที่ชนะ บัวขาว บัญชาเมฆ รวมถึง ธิอาโก เทเซียรา นักชกบราซิล ที่เพิ่งได้รับสัญชาติ
ทั้งนี้ก่อนการชกไฟต์ดังกล่าวเกิดดราม่าสนั่นวงการมวย เมื่อ สุดสาคร ส.กลิ่นมี ออกมาให้สัมภาษณ์อยากให้สนับสนุนกุน แขมร์ และมวยไทย ให้ทั่วโลกได้รู้จัก ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งของศิลปะการต่อสู้ไทยกับกัมพูชา จนโดนทัวร์ลงอย่างหนัก
ล่าสุด สุดสาคร ส.กลิ่นมี ออกมาอัดคลิปว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะให้มีการสนับสนุนกุน แขมร์ เพียงแต่วันนั้นมีเพจมวยของกัมพูชามาสัมภาษณ์ตนราวๆ 3-4 นาที แต่คลิปถูกตัดออกมาให้สั้นเหลือเพียง 20-30 วินาที และถูกหยิบมาเป็นประเด็น พร้อมแจงว่าสาเหตุที่ตนเดินทางไปต่อยกุน แขมร์ ในไฟต์ดังกล่าว เป็นเพราะฝ่ายจัดติดต่อให้ไปขึ้นชกตั้งแต่ปลายปี 2022 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะมีกระแสดราม่าจากกีฬาซีเกมส์ 2023
“ที่ผมให้สัมภาษณ์ไปแบบนั้นเพราะมีเพจมวยกัมพูชามาสัมภาษณ์ผมยาว 3-4 นาที แต่คลิปถูกตัดให้เหลือ 20-30 วินาที และเอามาเป็นประเด็นกัน” สุดสาครเริ่มกล่าว
“เขาถามผมว่ารู้สึกอย่างไรที่มาชกที่กัมพูชา ผมก็ตอบไปว่าผมรู้สึกประทับใจที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เราเข้าใจอยู่แล้วว่าจะโดนโห่ เพราะเรื่องระหว่าง กุน แขมร์-มวยไทย แล้วเขาก็ถามผมว่ากระแสของ กุน แขมร์ กับ มวยไทย ที่เมืองไทยเป็นอย่างไร ซึ่งผมก็ย้อนความว่า ในอดีตเราเป็นเหมือนพี่น้องกัน พอกาลเวลาผ่านมา เราต่างก็เป็นประเทศไทย ประเทศกัมพูชา”
“ตลอดชีวิตของผมรู้จักแต่คำว่า มวยไทย ตอนนี้มีเรื่องเข้ามาว่า กุน แขมร์ เป็นต้นกำเนิด มีการเคลมกันเกิดขึ้น ในเมื่อกัมพูชาคิดว่า กุน แขมร์ เป็นศิลปะป้องกันตัวของประเทศคุณ คุณก็ช่วยกันสนับสนุนกันไป โปรโมตกันไป ส่วนมวยไทยก็เป็นของประเทศไทย คนทั่วโลกได้รู้จักกันแล้ว เราคนไทยก็ช่วยสนับสนุนมวยไทยให้ทั่วโลกได้รู้จักมวยไทยกันดีกว่า ผมตอบไปแบบนี้ ไปๆ มาๆ เขาเอาไปตัดต่อแบบไหนไม่รู้ กลายเป็นเหลือแค่ผมพูดว่าเราต้องไปจับมือกับกัมพูชาเพื่อร่วมกันผลักดันกุน แขมร์ กับมวยไทย ให้ทุกคนได้รู้จัก ซึ่งความหมายมันคนละแบบกันเลย และทุกคนก็เข้ามารุมด่าผม”
ขณะเดียวกัน สุดสาคร ส.กลิ่นมี ยังเผยถึงเหตุที่ตนเดินทางไปชกที่ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมาว่า “เขาไม่ได้เพิ่งติดต่อมาแค่ 1-2 สัปดาห์ ฝ่ายจัดเขาติดต่อผมมาตั้งแต่ปลายปีก่อน เป็นช่วงก่อนจะมีประเด็นดราม่าซีเกมส์ที่เปลี่ยนจากมวยไทยเป็นกุน แขมร์ ผมก็รู้พร้อมๆ กับทุกคน เรื่องโปรแกรมการชก และนักมวยทุกคนก็ต้องวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าเพราะเซ็นสัญญาไปแล้ว”
“ผมถามว่าจะชกกติกาแบบไหน เขาก็บอกว่ากติกาเหมือนมวยไทย เขาไม่ได้บอกตรงๆ ว่าเป็นกุน แขมร์ ผมเซ็นสัญญาไปแล้วว่าจะไปชกเดือนนี้ (เมษายน 2023) และเดือนหน้าก็จะมีไปชกที่อิตาลี ถามว่าปฏิเสธได้ไหม การจะปฏิเสธได้เราก็ต้องมีเหตุจริงๆ ถ้าอยู่ๆ เราไปยกเลิกก็ต้องเสียค่าปรับหลายเท่า”
“สุดท้ายผมกราบขอโทษจากหัวใจของนักมวยธรรมดา ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายมวยไทย ขอให้เข้าใจผมด้วย ขอโทษที่ทำให้คำพูดบางคำสัมภาษณ์ไปเข้าใจผมผิด ผมขอโทษจริงๆ ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายมวยไทยเลยๆ ผมไม่มีเจตนาสนับสนุน กุน แขมร์ ผมเกิดจากมวยไทย ชีวิตผมคือมวยไทย” นักชกดีกรีแชมป์ไทยไฟต์กล่าวทิ้งท้าย
