“ฟร้องซ์ ฟุตบอล” นิตยสารฟุตบอลรายสัปดาห์ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหนังสือที่แจกรางวัลทรงอิทธิพลอย่างนักฟุตบอลยอดเยี่ยม “บัลลงดอร์” ประจำทุกปี ใช้รูปคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะรีล มาดริด เจ้าของรางวัลครั้งล่าสุด 4 สมัยปี 2016 พร้อมพาดหัวเป็นการบอกใบ้ว่าโรนัลโด้จะคว้ารางวัลในเดือนธันวาคมปีนี้เป็นสมัยที่ 5 ว่า “บัลลงดอร์ ใครจะตามโรนัลโด้ได้ทัน?”
ส่งผลให้ “มุนโด้ เดปอร์ติโบ” และ “สปอร์ต” 2 สื่อนครบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ซึ่งเป็นที่ตั้งสโมสรบาร์เซโลน่า ที่มีลิโอเนล เมสซี่ ผู้เล่นตัวเก่ง “บาร์ซ่า” และเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์สูงสุด 5 สมัย ลงข่าวต่อว่าฟร้องซ์ ฟุตบอลทันทีว่าไม่ยุติธรรมสำหรับเมสซี่
โดยเนื้อหาฟร้องซ์ ฟุตบอล ระบุในทำนองว่าโรนัลโด้วัย 32 ปี เป็นตัวเต็งในการได้รางวัลบัลลงดอร์ปี 2017 นี้ หลังเจ้าตัวที่เพิ่งทำสถิติเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูในฟุตบอลสโมสรยุโรปครบ 100 ลูก และเป็นคนแรกที่ทำประตูเฉพาะในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ครบ 100 ลูกเช่นกัน รวมทั้งกำลังจะพาทีม “ราชันชุดขาว” เป็นทีมแรกที่ป้องกันแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จ นับตั้งแต่ฟุตบอลยูโรเปี้ยนคัพ เปลี่ยนชื่อ และระบบการเล่นเป็นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 1992-93
หลังมีส่วนช่วยรีล มาดริด เข้ารอบชิงชนะเลิศฤดูกาลนี้ แม้จะบุกแพ้แอตเลติโก้ มาดริด 1-2 ในเกมรอบรองชนะเลิศ นัด 2 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม แต่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยประตูรวม 2 นัด 4-2 เนื่องจาก 3 ประตูที่ทีมราชันชุดขาวเปิดบ้านถล่มทีม “ตราหมี” ไปก่อนในเกมแรก 3-0 มาจาก “แฮตทริก” ของโรนัลโด้
นอกจากนี้ ยังเสริมว่าอีก 3 ตัวเต็งที่ตามโรนัลโด้มาติดๆ กลับไม่มีชื่อของเมสซี่ แต่เป็นจานลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารกัปตันทีมยูเวนตุส ที่เข้าจะพบกับรีล มาดริด แชมป์เก่าในรอบชิงชนะเลิศฤดูกาลนี้ ตามด้วยอ็องตวน กรีซมันน์ อีกหนึ่งแนวรุกแอตฯ มาดริด ซึ่งได้อันดับ 3 รางวัลบัลลงดอร์ครั้งล่าสุด และคีแล็ง เอ็มบัปเป้ ศูนย์หน้าดาวรุ่งอาแอส โมนาโก ที่ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ
ส่งผลให้ 2 สำนักข่าวนครบาร์เซโลน่าอย่างมุนโด้ เดปอร์ติโบ มองว่าเป็นเรื่องน่าอดสูสำหรับฟร้องซ์ ฟุตบอล ที่มีพฤติกรรมสื่อไปในทางบอกใบ้ผู้ชนะล่วงหน้านานถึง 7 เดือน แถมเมสซี่ยังทำประตูรวมกันทุกรายการในฤดูกาลนี้ถึง 51 ลูก หรือมากกว่าโรนัลโด้ 16 ลูก โดย 2 ในนั้นเป็นประตูที่มีส่วนพาบาร์ซ่าบุกชนะรีล มาดริด ถึงซานเตียโก้ เบร์นาเบว 3-2 ในเกมลีกประเทศสเปน และตั้งคำถามว่าทำไมไม่มีชื่อเนย์มาร์
ขณะที่สปอร์ตยืนยันว่า หลายประตูที่โรนัลโด้ทำได้ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้ได้รับการช่วยเหลือจากผู้ตัดสิน อย่างเช่นเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัด 2 ที่รีล มาดริด แพ้ 1-2 ในเวลาปกติ 90 นาที จนสกอร์รวม 2 นัดเสมอ 3-3 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที และพลิกกลับมาคว้าชัย 4-2 ก็มีประตูของโรนัลโด้ถึง 2 ลูกที่ล้ำหน้าอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ฟร้องซ์ ฟุตบอลชี้แจงว่าสาเหตุที่เมสซี่อาจถูกมองข้ามในครั้งนี้ ก็เพราะเจ้าตัวไม่สามารถพาบาร์เซโลน่าเข้าไปเล่นแม้กระทั่งรอบรองชนะเลิศรายการนี้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งคนล่าสุดที่ได้รางวัลนี้ และไม่ได้พาต้นสังกัดตัวเองเข้ารอบตัดเชือกคือฟาบิโอ คันนาวาโร่ เมื่อ 11 ปีก่อน หลังพาสโมสรยูเวนตุสไปไกลแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 กับทีมชาติอิตาลี
