หลายสื่อต่างประเทศรายงานไปในทิศทางคล้ายกันว่า “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ตกเป็นข่าวเตรียมซื้ออ็องตวน กรีซมันน์ แนวรุกตัวเก่งแอตเลติโก้ มาดริด ในราคาตามค่าฉีกสัญญา 100 ล้านยูโร (3,800 ล้านบาท / อัตรา 1 ยูโร 38 บาท) ต้องเปลี่ยนแผนเจรจาซื้อผู้เล่นแดนหน้าคนใหม่ หลังทีม “ตราหมี” ต้นสังกัดกรีซมันน์อุทธรณ์โทษแบนห้ามลงทะเบียนนักเตะใหม่ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะช่วงปิดฤดูกาลนี้เพื่อลงเล่นไม่ได้
ก่อนหน้านี้ แอตฯ มาดริด ถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ห้ามลงทะเบียนนักเตะใหม่ 2 ตลาดซื้อขายกลางฤดูกาล 2016-17 หรือตลาดซื้อขายรอบ 2 หน้าหนาวเดือนมกราคม 2017 ที่ผ่านมา และตลาดซื้อขายใหญ่ช่วงปิดฤดูกาลนี้ หลังทำผิดกฎคว้าตัวผู้เล่นระดับเยาวชนต่างชาติอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าสู่สโมสรระหว่างปี 2007-2014
สำหรับโทษดังกล่าวของฟีฟ่า สามารถซื้อ และขายนักเตะได้เหมือนเดิม เพียงแต่ถ้าเป็นนักเตะที่ซื้อเข้ามาในช่วงที่ติดโทษแบน จะไม่สามารถลงทะเบียนนักเตะใหม่เพื่อส่งลงเล่นในเกมอย่างเป็นทางการ ภายใต้การควบคุมของฟีฟ่าได้
ส่งผลให้แอตฯ มาดริด ได้ยื่นอุทธรณ์โทษแบนต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) ให้ยกเลิกโทษ เพื่อสามารถซื้อนักเตะตำแหน่งตัวรุกคนใหม่เข้ามาแทนกรีซมันน์ที่ต้องการย้ายไปสวมเสื้อปีศาจแดง แต่ผลอุทธรณ์ไม่สำเร็จ และทีมตราหมีที่ยังมีสัญญากับกรีซมันน์ถึงกลางปี 2021 ไม่น่าจะขายนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส วัย 26 ปีรายนี้ออกไป
ขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของโจเซ่ มูรินโญ่ ต้องเปลี่ยนเป้าหมายใหม่จากกรีซมันน์เป็นดีเอโก้ คอสต้า อดีตลูกทีมเก่ามูรินโญ่ช่วง “เดอะ สเปเชียลวัน” คุมเชลซีสมัยที่ 2 หรือไม่อาจเป็นแกเร็ธ เบล จากรีล มาดริด และโรเมลู ลูกากู กองหน้าเอฟเวอร์ตัน ซึ่งเคยไม่อยู่ในแผนการทำทีมของมูรินโญ่ช่วงที่คุมทีม “สิงห์บลู” เช่นกัน และเป็นคนที่ตัดสินใจปล่อยลูกากูที่เพิ่งกลับมาจากการถูกเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมในลีกผู้ดีด้วยกันยืมตัว เซ็นสัญญายืมตัวต่อไปอีก แต่เปลี่ยนทีมเป็นเอฟเวอร์ตัน เพราะไม่อยู่ในแผนการทำทีมเชลซีสมัย 2 ก่อนลูกากูจะกลายเป็นนักเตะ “ท็อฟฟสีน้ำเงิน” แบบถาวรในเวลาต่อมา
เนื่องจากซลาตัน อิบราฮิโมวิช ศูนย์หน้าตัวเก่งที่เซ็นสัญญากับแมนฯ ยูไนเต็ด ปีเดียว แต่กลับทำประตูให้ทีมสูงสุดฤดูกาลที่ผ่านมา 28 ลูกจาก 46 นัดทุกรายการ ยังเจ็บเข่ายาวถึงต้นปีหน้า 2018
