เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอน “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ร่วมแถลงข่าวสรุปผลงานการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี นัดที่ 8 ซึ่งทีมชาติไทย เปิดบ้านเสมอ ยูเออี 1-1 เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สมาคมและโค้ชได้ประชุมเพื่อรายงานและสรุปประเมินผล เพื่อเป็นแผนพัฒนาในอนาคต ซึ่งหลังจากนี้ทีมชาติไทยมีภารกิจทั้งฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 45 วันที่ 14-16 กรกฎาคม และ 2 แมตช์สุดท้ายคัดบอลโลกที่จะเจอ อิรัก และออสเตรเลีย ซึ่งโค้ชราเยวัชบอกว่าหากเราเตรียมทีมถูกวิธี และนำเทคนิคมาใช้ ทีมชาติไทยจะเล่นได้อย่างมีศักยภาพสูงกว่าที่ผ่านมา
“ผมพอใจในผลงานของโค้ชราเยวัช ถ้าเขามีเวลา และโอกาสมากกว่านี้ มั่นใจว่าจะสร้างทีมชาติไทยดีกว่าที่ผ่านมาแน่นอน ผมเชื่อว่าโค้ชราเยวัชจะสร้างทีมชาติไทยให้แข็งแกร่ง และเชื่อว่าอนาคตทีมชาติไทยคงไม่เป็นรองใครในเอเชีย และมั่นใจว่าในเวลาอันใกล้ขึ้นเราอาจจะได้ไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้ และไม่ต้องรอไปจนถึงปี 2026” บิ๊กอ๊อดกล่าว
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องทีมที่จะร่วมฟาดแข้งคิงส์คัพนั้น ยืนยันแล้ว 2 ทีม รออีก 1 ทีม ซึ่งที่ผ่านมามีหลายทีมตอบรับแล้วก็ปฏิเสธอย่างเช่น ฝรั่งเศส, อุรุกวัย และล่าสุดทีมเช็ก ที่ยกเลิกทั้งที่รับปากแล้ว ส่วนตัวมองว่าชาติเหล่านี้อาจกลัวแพ้ทีมไทย เพราะไม่สามารถส่งชุดใหญ่มาได้ เพราะไม่ใช่ช่วงฟีฟ่าเดย์ จึงเชิญทีมมาแข่งค่อนข้างยาก ซึ่งขอเวลาอีกเล็กน้อย และไม่นานนี้น่าจะได้ข้อสรุป เพราะอยากได้ทีมดีๆ เพื่อคู่ควรเหมาะสม
ราเยวัช กล่าวว่า ทีมมีเวลาเก็บตัว 2 สัปดาห์ และขาดผู้เล่นหลายคนจากทีมเมืองทอง ซึ่งต้องยอมรับว่ายูเออีเหนือกว่า แต่พอใจในความกระหายของแข้งไทย ส่วนศึกคิงส์คัพหวังว่าจะพัฒนาทีมยิ่งขึ้นอีก และทีมเวิร์กกับผลแข่งขันจะดีขึ้น ส่วนเกมคัดฟุตบอลโลกในบ้านนัดสุดท้ายกับ อิรัก คิดว่ามีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์เก็บ 3 แต้มแรกได้
“ผมคิดว่าจะต้องพัฒนาเรื่องการวางแผน และแท็กติกเกมรับ การป้องกันประตู รวมถึงจะต้องมีการสวนกลับที่มีประสิทธิภาพ ในรอบนี้เรามีประตูได้เสียติดลบ 16 ลูก ทำให้คิดว่าต้องปรับปรุงเกมรับโดยด่วน ขั้นต่อไปเราต้องพัฒนาเรื่องเกมบุก โดยเฉพาะการโต้กลับ และการสร้างเกมรุก ไทยต้องมีเกมรับที่ดี รวมถึงเกมรุกต้องดีขึ้น เพื่อที่จะทำประตูให้ได้ด้วย” ราเยวัชกล่าว
กุนซือชาวเซิร์บกล่าวในตอนท้ายว่า เกมกับอิรักจะมีเวลามากขึ้นในการเตรียมทีม และทำให้มีความหวังมากขึ้น ส่วนในศึกคิงส์คัพจะมีเวลาติดตามดูนักเตะด้วยตัวเองจะได้เห็นผู้เล่นใหม่ๆ แต่แกนหลักของทีมจะยังคงชุดเดิมไว้ ทีมชาติไทยมีสไตล์การเล่นเป็นแบบแผน จะพยายามหาสิ่งแปลกใหม่เพิ่มเข้าไป นักเตะไทยมีพรสวรรค์สูง และทุกคนเข้าใจแท็กติก รวมทั้งมีความรับผิดชอบ มีความกระหาย ถ้าเรามีเวลาเพิ่มและทำงานได้ดีอย่างต่อเนื่องจะสามารถก้าวขึ้นไปติดท็อป 10 ของเอเชียได้แน่นอน
