ลูอิส แฮมิลตัน อดีตแชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน 3 สมัยของเมอร์เซเดส ให้สัมภาษณ์จวกเซบาสเตียน เว็ตเทล อดีตแชมป์โลก 4 สมัย คู่แข่งสำคัญจากเฟอร์รารี่ ว่าทำเรื่องน่าละอาย และเรียกร้องให้อีกฝ่ายทำตัวให้สมกับเป็นลูกผู้ชายหลังเกิดเหตุวุ่นวายระหว่างการแข่งขันเอฟวันสนามล่าสุดในศึก “อาเซอร์ไบจาน กรังด์ปรีซ์” ที่กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน
โดยหลังจากแข่งขันไปได้ 19 รอบ ฝ่ายจัดการแข่งขันก็ปล่อยรถเซฟตี้คาร์ออกมา ระหว่างนั้นแฮมิลตันซึ่งนำอยู่ได้ชะลอรถเพื่อไม่ให้ชนกับเซฟตี้คาร์ที่ความเร็วน้อยกว่า ทำให้เว็ตเทลที่ขับตามหลังมาชนท้ายรถของแฮมิลตันอย่างจัง จนทั้งคู่ต้องเข้าพิทเพื่อซ่อมแซมรถ และเว็ตเทลโดนลงโทษปรับ 10 วินาทีค่อยปล่อยตัวออกมาใหม่ โดยหลังชนครั้งแรก เว็ตเทลแสดงอาการไม่พอใจเพราะมองว่าแฮมิลตันเบรกกะทันหัน จึงขับรถไปเทียบรถแฮมิลตันแล้วเอาล้อกระแทกจากด้านข้าง
ส่งผลให้สนามดังกล่าว ดาเนียล ริคชาร์โด้ ของเรดบูลคว้าแชมป์ไปครอง ทำเวลา 2 ชั่วโมง 3 นาที 55.570 วินาที ตามด้วยวัลต์เทรี่ บ็อตทาส อีกหนึ่งนักขับเมอร์เซเดส และแลนซ์ สโตลล์ จากทีมวิลเลียมส์ ขณะที่เว็ตเทลกับแฮมิลตันเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ
ส่งผลให้เว็ตเทลยังคงนำคะแนนสะสมลุ้นแชมป์โลกประเภทนักขับที่ 153 คะแนน ตามด้วยแฮมิลตัน 139 คะแนน
ภายหลังการแข่งขัน แฮมิลตันกล่าวว่า พฤติกรรมของเว็ตเทลไม่ใช่สิ่งที่นักขับรถแข่งควรกระทำ เพราะเป็นการขับที่เสี่ยงอันตรายจนโดนลงโทษปรับเวลา 10 วินาที ซึ่งตนคงไม่จำเป็นต้องขยายความอะไรอีก ส่วนเรื่องที่อีกฝ่ายมองว่าตนเบรกกะทันหันเพื่อแกล้งนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ในเมื่อเว็ตเทลเป็นฝ่ายขับชนคนอื่น เขาก็ทำเรื่องน่าละอายไปแล้ว ถ้าอยากจะพิสูจน์ฝีมือกันก็ควรเผชิญหน้าในการแข่งขัน ไม่ใช่ทำเรื่องแบบนี้ต่อหน้าผู้ชมที่เป็นเด็กๆ ส่วนหนึ่ง
ส่วนเว็ตเทลกล่าวว่า แฮมิลตันจงใจเบรกกะทันหันใส่คนที่ขับตามมาเหมือนกับที่เคยทำในรายการ “ไชนีส กรังด์ปรีซ์” เมื่อ 2 ปีที่แล้ว จริงๆ ตนไม่ได้มีปัญหาอะไรกับอีกฝ่าย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
ชมคลิปจังหวะการชน (ขอบคุณคลิปจาก KenzoF1)
