เมื่อวันที่ 27 กันยายน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางด้วยสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ PG711 ออกจากท่าอากาศยานนานชาติสุวรรณภูมิ มาถึงยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงมาเล่ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ ตามกำหนดการเดินทางมาเยือนมัลดีฟส์ เพื่อเข้าเยี่ยมคาราวะ นายอับดุลลา ยามีน อับดุล กายูม ประธานาธิบดีแห่งมัลดีฟส์
ทันทีที่เดินทางมาถึงคณะของนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ร่วมด้วย นางจุฬามณี ชาติสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา, นายสนั่น อังอุบลกุล กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์แห่งมัลดีฟส์ประจำประเทศไทย, พันโทรุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และนางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้รับการต้อนรับจากนางอีรูธิชาม อดัม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการกีฬาและเยาวชนมัลดีฟส์ และนายโมฮัมเหม็ด ราชีค ผู้แทนทางการค้าในประเทศของมัลดีฟส์
จากนั้นนางกอบกาญจน์ วัฒนาวรางกูร ได้เข้าเยี่ยมคาราวะนายมูซ่า ซาเมียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของมัลดีฟส์ และเข้าเยี่ยมคาราวะพูดคุยหารือกับนางอีรูธิชาม อดัล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการกีฬาและเยาวชนของมัลดีฟส์ ก่อนที่จะเดินทางไปเยี่ยมชมสนามกีฬาแห่งชาติมัลดีฟส์ ซึ่งมีความจุกว่า 9,000 ที่นั่ง และเยี่ยมชมสระว่ายน้ำ
นางกอบกาญจน์ เปิดเผยว่า มัลดีฟส์ถือเป็นประเทศคู่การค้าที่สำคัญของไทย ซึ่งมัลดีฟส์ส่งออกสินค้าไปยังไทยเป็นอันดับ 1 เช่นทูน่า ขณะเดียวกันไทยก็ส่งสินค้ามาขายยังมัลดีฟส์เป็นอีนดับต้นๆ ทั้งของกิน และของใช้ ส่วนการลงทุนก็มีนักลงทุนจากไทยมาที่มัลดีฟส์หลายรายกว่า 7-8 บริษัทลงทุนด้านโรงแรม ทั้งอนันตรา, ดุสิตธานี, เซ็นทาร่า, พฤษกา และล่าสุดสิงห์ ทำให้มัลดีฟส์เริ่มมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางกอบกาญจน์กล่าวอีกว่า ด้านการท่องเที่ยวไทยและมัลดีฟส์ต่างเดินทางไปเที่ยวกันและกันเป็นอันดับต้นเช่นกัน ซึ่งล่าสุดมัลดีฟส์ได้นำเรื่องกีฬาเข้ามาพัฒนาชาติ ซึ่งทางประธานาธิบดีมัลดีฟส์ได้มุ่งหวังให้ประชาชนเล่นกีฬาเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย จึงเล็งเห็นว่าไทยและมัลดีฟส์ควรจะมีการแลกเปลี่ยนกันทั้งด้านการค้า, การลงทุน, การท่องเที่ยว และการกีฬา
“ประธานาธิบดีมัลดีฟส์เขาอยากให้คนเล่นกีฬามากขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาสังคม จึงได้ออกกฏหมายเกี่ยวกับกีฬา เพิ่มงบสนับสนุน และวางแผนให้คนเล่นกีฬามากขึ้น ด้วยการให้ผู้ชายเล่นฟุตซอล ส่วนผู้หญิงให้เล่นวอลเลย์บอล และเตรียมถมที่สร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ด้วย ซึ่งคล้ายกับแนวทางของท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งเราก็ได้พูดคุยว่าจะมีการเซ็นเอ็มโอยูร่วมกันพัฒนาทั้งด้านท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งทางประธานาธิบดีมัลดีฟส์อยากที่จะเดินทางไปพบนายกรัฐมนตรีไทยอย่างเป็นทางการภายในสิ้นปีนี้อีกด้วย เพื่อพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนความร่วมมือกันในอนาคต”
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬากล่าวอีกว่า มัลดีฟส์ และประเทศในแถบนี้ทั้งอินเดีย และศรีลังกา มีเศรษฐกิจดีขึ้นมาก ดังนั้นจึงอยากให้นักลงทุนไทยมาลงทุนเพิ่มเติม และจากการหารือกับรัฐมนตรีทั้ง 2 ท่านของมัลดีฟส์เขาสนใจที่จะให้มีจุดเปลี่ยนเครื่องบินที่ไทยก่อนเดินทางมาถึงมัลดีฟส์ เราจึงได้บอกเขาไปว่ามีสนามบินอู่ตะเภาที่พร้อมจะเป็น 1 ใน 3 สนามบินสำคัญของไทยในอนาคตไว้รองรับด้วย นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยแลกเปลี่ยรกันเรื่องการท่องเที่ยวทางการแพทย์ และการเรียนรู้เรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลจากเขาที่มีน้ำทะเลสวยงามมาก
“มัลดีฟส์มีรายได้ต่อหัวสูงที่สุดในแถบเอเชียใต้ และมีจีดีพีเติบโตค่อนข้างมาก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ดังนั้นถือเป็นประเทศที่น่าลงทุนมาก หวังว่าในอนาคตจะมีการแลกเปลี่ยน และมีการเติบโตร่วมกันในทุกด้าน” นางกอบกาญจน์
