“เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ไปค้าแข้งในเจลีก ญี่ปุ่น กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และผ่านด่านแรกด้วยการมีที่มีทางในทีมชุดใหญ่ ลงตัวจริงมา 9 นัดติดต่อกัน
นักเตะอย่างชนาธิปสมควรประสบความสำเร็จจากความมีพรสวรรค์ เทคนิคสูง ความเร็ว กับความฉลาดก็เต็มเปี่ยม จะบอกว่าเป็นนักฟุตบอลไทยที่เก่งที่สุดในยุคนี้ก็พูดได้เต็มปากเต็มคำ
ผมไม่รู้จักเจเป็นการส่วนตัว แต่เท่าที่เห็นก็ดูเป็นคนขยัน มุ่งมั่นในชีวิต ถึงมีแฟนเป็นดาราก็ยังรักษาความเรียบง่าย รู้หน้าที่ตัวเองในฐานะนักเตะเป็นอย่างดี
ชนาธิปตั้งใจมากที่จะพิสูจน์ตัวเองในลีกญี่ปุ่น พยายามปรับหลายอย่าง ทั้งเรียนภาษา เรียนรู้รูปแบบการเล่นของทีมใหม่ จากตอนแรกที่การยืนตำแหน่งไม่ค่อยดี ไม่ค่อยฉีกตัวไปหาที่ว่าง หลังๆ ก็พัฒนารู้จักขยับหาพื้นที่ กล้าเล่น กล้าเลี้ยงมากกว่าเดิม
ชนาธิปพยายามเหลือเกินที่จะปรับตัวเข้าหาทีม น่าเสียดายที่ทีมคอนซาโดเล่ ปรับตัวให้เข้ากับชนาธิปน้อยเกินไป
มันก็ถูกที่ทีมต้องใหญ่สุด ทีมต้องมาก่อน แต่นักเตะอย่างชนาธิปนั้น มีความพิเศษในตัว ถ้าคอนซาโดเล่ไม่เอาความพิเศษมาใช้ประโยชน์แล้วจะเอาเขามาเล่นเพื่ออะไร?
เจจะอันตรายและเจิดจ้า ถ้าได้เป็นตัวของเขาเอง ไม่ต้องถึงขั้นเต็มร้อย แค่ 60-70 เปอร์เซนต์ ก็เกินพอ ปล่อยให้เขามีอิสระในการเล่นบ้าง ให้ใช้กึ๋นอ่านเกม เลี้ยงตะลุยเข้าใส่กองหลัง เปิดบอลยาว คิลเลอร์พาส ฉีกเกมรับ เรื่องพวกนี้เจทำได้ดี ถึงเจอตัวระดับเจลีก ก็น่าจะออกฤทธิ์ได้ ถ้าโค้ชกับเพื่อนร่วมทีมมีความเชื่อมั่นในตัวเขามากพอ
ซึ่งที่ผ่านมามันยังไม่พอ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ยังเล่นอย่างที่เคยเล่น เล่นตามมาตรฐานเจลีก คือ จ่ายบอลเร็ว ได้แล้วส่ง ไม่เก็บบอลไว้กับตัวนาน ชนาธิปลงไปเล่นก็เล่นตามทีม ไม่เป็นชนาธิป ได้มาแล้วก็รีบส่งต่อ เป็นส่วนหนึ่งในทีม แต่ไม่มีอะไรพิเศษ
เสียดายของชะมัด
พูดแบบไม่ชาตินิยมนะครับ ผมว่าเจน่าจะได้เล่นกับทีมที่ดีกว่านี้ อยู่กับโค้ชที่เก่งกว่านี้
คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ไม่ใช่ทีมที่ดีนัก เล่นบอลพื้นๆ ธรรมดาๆ ประตูไม่เหนียว หลังก็รั่ว
เจไปเล่นก็ได้แค่รู้ระบบ รู้พื้นฐานของบอลญี่ปุ่น แต่ได้มีส่วนร่วมน้อยมาก
และคงต้องเหนื่อยอีกมากกว่าจะมีลายเซ็นในลีกนี้