ความเคลื่อนไหวเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย โดยที่ก่อนหน้านี้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายกรัฐมนตรี ได้เชิญ 7 บริษัทเอกชน ร่วมทุนกันเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ โดยมีการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และบริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นแกนนำนั้น
ล่าสุด “บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการ กกท. เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ได้แจ้งว่าอีกไม่เกิน 10 วันเรื่องของการเจรจาซื้อลิขสิทธิ์จะเรียบร้อย โดยการคุยกับบริษัท อินฟรอนท์ ผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในภูมิภาคเอเชีย ก็ได้มีการพูดคุยกันหลายครั้งแล้ว คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร
“ส่วนการคุยกับ 7 บริษัทนั้น ตอนนี้อาจจะมีบางหน่วยงานที่ต้องถอนตัวออกไป และมีบริษัทอื่นเข้ามาแทนที่แทน แต่จะยังใช้งบประมาณเท่าเดิม และมี 7 บริษัทเท่าเดิม ซึ่งทาง พล.อ.ประวิตร ได้ทำการเจรจาติดต่อกับบริษัทที่เข้ามาแทนที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวต่อว่า บริษัทที่ต้องถอนตัวออกไปก็คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งจริงๆ ทั้งสองหน่วยงานนี้พร้อมที่ จะลงทุน แต่ทว่าเนื่องจากเป็นรัฐวิสาหกิจ พล.อ.ประวิตรไม่อยากให้ถูกมองว่าเป็นการนำเอาภาษี ของประชาชนมาใช้เพื่อประโยชน์ ของคนเพียงบางกลุ่ม จึงได้หาหน่วยงานอื่นมาทดแทน โดยที่จะเข้ามาทดแทนที่ได้รับแจ้งมาคือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือเอไอเอส นั่นเอง
“ปัญหาเรื่องเงินตอนนี้ไม่น่าเป็นห่วง ทางคิงเพาเวอร์นั้นจะเป็นผู้ดูแลในเรื่องของการซื้อลิขสิทธิ์ทั้งหมดแล้วจะเป็นผู้ที่ประสานงานกับอี ก 6 บริษัทที่เหลือในการเซ็นสัญญา และการแบ่งจ่ายเงินต่างๆ ที่จะต้องจบลงก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น” บิ๊กเสือกล่าว
นายสกล กล่าวในตอนท้ายว่า หลังจากที่ทำการตกลงประสานงานทุกอย่างเรียบร้อยก็จะเชิญบริษัท อินฟรอนท์ มาทำสัญญา และหลังจากนั้นจะเชิญทั้ง 7 บริษัท รวมไปถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้ามาคุยเรื่องของการลงนามสัญญาการถ่ายทอดสด จำนวนช่อง ช่องใดบ้าง และจะเชิญ พล.อ.ประวิตร มาเป็นประธานเพื่อรับทราบการดำเนินงานทั้งหมดจากนั้นจะมีการประชุมเพื่อเตรียมงานต่างๆ การจัดกิจกรรมออนกราวด์เพื่อบริการประชาชนให้เต็มที่ ซึ่งสิ่งที่ดีใจที่สุดคือ การทำให้ประชาชนได้รับชมฟุตบอลโลกอย่างที่ตั้งใจเอาไว้
“หลังจากนี้จะประชุมเตรียมงานต่างๆ การจัดกิจกรรมออนกราวด์ ต้องบริการประชาชนให้เต็มที่ สิ่งที่ดีใจคือประชาชนจะได้ดูกันอย่างเต็มที่” ผู้ว่าการ กกท.กล่าวในตอนท้าย
