นักมวยปล้ำอุบลราชธานีเข้าชิง 5 รายการ คว้าไป 3 เหรียญทอง ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 34 “น่านเกมส์” ที่ จ.น่าน เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ซึ่งเป็นการชิงชัยอย่างเป็นทางการวันแรก
นักปล้ำอุบลราชธานีที่วันแรกยังไม่มีเหรียญทอง มาวันนี้พาเหรดกันเข้าชิงชนะเลิศ 5 จาก 6 รายการ(ไม่นับรวมประเภทชายหาด) เก็บได้ 3 ทอง
สรุปผลรอบชิงชนะเลิศ มวยปล้ำ ดังนี้ ฟรีสไตล์ รุ่น 43 กก.หญิง เมฆลา สิงห์ประโคน(กทม.) ชนะ พรรพษา กองแก้ว(อุบลราชธานี) รุ่น 46 กก.หญิง พัชรีภรณ์ สายสุวรรณ(ศรีสะเกษ) ชนะ ธัญวรรณ สาจันทร์(หนองบัวลำภู) รุ่น 69 กก.ชาย ปริญญา ชำนาญจันทร์(อุบลราชธานี) ชนะ จิโรชน์ โคตรณรงค์(หนองบัวลำภู) รุ่น 76 กก.ชาย อภิรักษ์ ภาคทอง(อุบลราชธานี) ชนะ พีระพัฒน์ กาญจนสมบูรณ์(นครศรีธรรมราช) / เกรกโกร-โรมัน รุ่น 50 กก.ชาย สหัสวรรณ พวงแก้ว(ศรีสะเกษ) ชนะ สันติ ดอกดวง(อุบลราชธานี) รุ่น 54 กก.ชาย ศุภชัย ทองคำ(อุบลราชธานี) ชนะ ณัฐพล สุกใส(ชลบุรี)
ผลรอบชิงชนะเลิศ กีฬาประเภทอื่นๆ ดังนี้ เทควันโดพุมเซ่(ท่ารำ) ชายเดี่ยว ภัทรพงศ์ เซ่งเมือง(สุราษฎร์ธานี) เทควันโด ต่อสู้ 5 คนหญิง กทม. ชนะ พิษณุโลก 68-54 คะแนน รุ่น 33 กก.ชาย อิทธิพร สินสังข์(กทม.) ชนะ ปณต พิพัฒน์บุณยารัตน์(เชียงราย) 8-6 / ยูโด ท่าทุ่มมาตรฐาน หญิง นารีนาฎ แพนสมบัติ, วิภาวดี คำศรีสุข(มหาสารคาม) 378 คะแนน ชาย ธรรณทรณ์ สารพิมพ์, เกียรติศักดิ์ วรรณตรง(มหาสารคาม) 362.5 คะแนน ต่อสู้ รุ่น 45 กก.ชาย อภิสิทธิ์ ภควัฒน์มานพ(ชลบุรี) ชนะ วงศ์วริศ เอกอัคคอิทธิกุล(ขอนแก่น) รุ่น 38 กก.หญิง อุมาภรณ์ แจ่มหทัย(ชลบุรี) ชนะ พรญานิ ปานเกิด(พิษณุโลก)
พิธีเปิดเรียบง่าย-นักชกทีมชาติจุดคบเพลิง
สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันมีขึ้นที่ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน โดยมีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิด
เจ้าภาพจัดการแสดง 2 ชุด คือ “ประวัติศาสตร์เมืองน่าน” และ “เบิกฟ้าของดีเมืองน่าน ฟ้อนพิเพียง เทิดพระเกียรติ” ซึ่งเป็นการแสดงถึงประวัติความเป็นมาของ จ.น่าน และศิลปวัฒนธรรมโดดเด่น ไฮไลต์ คือ การจุดคบเพลิง มีปฐมศักดิ์ ขัติยะ นักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญเงิน รุ่น 75 กก.ชาย กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อปีที่แล้ว เป็นตัวแทนชาวน่านในการจุดไฟสัญลักษณ์เปิดฉากการแข่งขันครั้งนี้อย่างเรียบง่าย
กทม.หวังเป็นเจ้าทองสมัย30
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ทัพเมืองหลวงส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันมากที่สุดในทุกจังหวัดนักกีฬาชาย 499 คน นักกีฬาหญิง 477 คน และผู้ควบคุมและฝึกสอน 216 คน รวม 1,192 คน ซึ่งจากการแข่งขันครั้งที่ 33 “ชุมพร-ระนองเกมส์” เมื่อปีที่แล้ว กทม.เป็นเจ้าเหรียญทอง ที่ 122 เหรียญทอง ครั้งนี้ก็ยังตั้งเป้ารักษาแชมป์ให้ได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ 33 ครั้งที่ผ่านมา แข่งในรูปแบบเขต 18 ครั้ง เขต 10 กทม. เป็นเจ้าเหรียญทอง 14 ครั้ง เขต 3 ได้แชมป์ 2 ครั้ง เขต 7 ได้ไป 2 ครั้ง ส่วนในรูปแบบแบ่งจังหวัด 15 ครั้ง กทม.ได้เจ้าเหรียญทองทุกครั้ง รวมแล้ว กทม.เป็นแชมป์มหกรรมนี้ถึง 29 สมัย
รักบี้น่านใช้เด็กด้อยโอกาสป้องแชมป์หน3
นักรักบี้ฟุตบอลหญิง 7 คนของ “เจ้าภาพ” น่าน เจ้าของแชมป์ 2 สมัยซ้อนในกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ใช้นักกีฬาจากโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ จ.น่าน หรือโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 56 ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีเด็กกำพร้า เด็กมีปัญหาครอบครัว เด็กชาวเขาที่ขาดโอกาสด้านการศึกษา มาเรียนถึง 80 เปอร์เซ็นต์
นายจักรกฤษณ์ ผาสุข อาจารย์ของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ และผู้ฝึกสอนรักบี้หญิง จ.น่าน เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนมีแนวคิดในการรวบรวมเด็กเหล่านี้มาเล่นกีฬา ดีกว่าทำอะไรเสียหายให้สังคม ทุกคนีระเบียบวินัย รู้หน้าที่ของตัวเอง หลายคนตั้งความหวังไว้สูงในอนาคตของตัวเอง ตนเล็งเห็นถึงความสามารถของเด็กแต่ละคน จากการเล่นกรีฑาเป็นอันดับแรก หลายคนมีความไว มีความอดทน เพราะใช้เด็กจากชนเผ่าลั๊วะเป็นหลักของทีม เนื่องจากมีความอดทนสองเท่าเมื่อเทียบกับเด็กพื้นราบ ระบบหายใจดีกว่า
เฮดโค้ชรักบี้เจ้าภาพกล่าวอีกว่า ได้ทำทีมในลักษณะนี้มา 10 กว่าปีแล้ว ทุกอย่างเริ่มจากศูนย์ ทำมา 5 ปีจนมาถึงระดับแนวหน้าได้ ซึ่งทางโรงเรียนได้เปิดเป็นหลักสูตรวิชารักบี้ฟุตบอล ในระดับมัธยมศึกษา ปีที่ 4 ใช้ระบบทหารในการควบคุมดูแล กินนอนที่โรงเรียน ทุกคนจึงมีระเบียบวินัยมาก
“ความคาดหวังของผม คือ อยากให้ทุกคนเรียนจบปริญญาตรี ส่วนเรื่องการติดทีมชาติเป็นผลพลอยได้ บางคนในหมู่บ้านไม่เคยมีใครจบปริญญาตรีก่อนเลย จึงเป็นความหวังของหมู่บ้าน”
ส่วนเรื่องความคาดหวังในน่านเกมส์ นายจักรกฤษณ์ยอมรับว่าต้องการแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกัน แต่ด้วยการที่เล่นในบ้าน พ่อแม่และญาติๆ จะมาเชียร์กันเยอะ อาจจะทำให้นักกีฬามีความตื่นเต้น เล่นนอกแผนจนไม่เป็นไปตามแทคติค จึงเน้นย้ำให้ทุกคนเล่นอย่างมีวินัยเพื่อรักษาแชมป์เอาไว้ให้
