‘ราชดำเนิน’ยันแยกทาง‘เพชรยินดี’จบกันด้วยดี เดินหน้าจัดต่อไม่หาโปรโมเตอร์ใหม่
จากกรณีที่ 4 โปรโมเตอร์ประจำเวทีมวยราชดำเนิน ได้แก่ ศึกเพชรยินดี โดย “เสี่ยโบ๊ท” นายณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์, โปรโมเตอร์ศึกวันมิตรชัย โดย “นายหัวมิตร นคร” นายสุเมธ ซื่อสัตตบงกช, ศึกวันกิ่งทอง “กิ่งทอง” นายวินัย นาคสินธุ์ รวมถึง ศึกเชฟบุญธรรม โดย นายบุญธรรม ภาคโพธิ์ ได้ลาออกจากการเป็นโปรโมเตอร์ประจำเวทีมวยราชดำเนินนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน นายจิต เชี่ยวสกุล นายสนามเวทีมวยราชดำเนิน ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเรื่องราวทั้งหมด โดยเริ่มจากปัญหาระหว่าง นายจิต กับ นายณัฐเดช นั้น เกี่ยวเนื่องมาจากการที่นายณัฐเดชใช้พื้นที่โซเชียลมีเดียของตัวเองเพื่อโจมตีและพยายามกดดันเวทีมวยราชดำเนินหลายต่อหลายครั้ง เหมือนไม่ให้เกียรติตั้งตัวเองและเวทีมวย และเคยเตือนในที่ประชุมว่าถ้ามีอะไรให้มาคุยกัน จนสุดท้ายก็ยอมรับว่าตัวเองมีอารมณ์และได้ตำหนิส่วนตัวไปในฐานะพี่น้อง ไม่ใช่ในฐานะเวทีราชดำเนินอย่างที่นายณัฐเดชเอาไปอ้าง นอกจากนี้ยังมีบุคคลนิรนาม เอานามสกุลตัวเองไปเปลี่ยนแบบเสียหาย แถมยังขู่ทำร้ายร่างกายและถึงชีวิต ก็ได้มีการแจ้งความไปแล้วเรียบร้อย
นายจิต กล่าวต่อว่า สิ่งหนึ่งที่อยากแจ้งเลยคือต้องบอกว่าการทำงานเป็นองค์กร ตนไม่สามารถตัดสินใจคนเดียวได้ ยังต้องผ่านการประชุมบอร์ดบริหารต่างๆ ได้แค่นำเรื่องไปเสนอ ก่อนจะกลับมาคุยอีกครั้งหนึ่ง ส่วนที่บอกว่าประชุมโดยไม่เชิญเพชรยินดีมา ก็ไม่จริง เพราะไม่ใช่การประชุม แค่นัดพบทานข้าวกันเท่านั้น รวมถึงข่าวที่จะปลดโปรโมเตอร์ทั้งหมด ก็ได้โทรแจ้งโปรโมเตอร์ด้วยตัวเองว่าไม่เป้นความจริงแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่กำลังแถลงข่าว นายณัฐเดช ซึ่งชมผ่านไลฟ์ของเพจเฟซบุ๊ค ได้ส่งข้อความว่า “เรียนพี่จิต สิ่งใดที่ทำให้ไม่สบายใจ ขอโทษจากใจจริง ผมจบแล้ว” ซึ่งนายจิตก็ได้ตอบว่า ขอโทษเช่นกัน ที่ตำหนิไปด้วยความเป็นพี่น้องและด้วยอารมณ์ ตัวเองก็จบแล้วเช่นกัน
นายจิต กล่าวต่อว่า ในส่วนของการลาออกก็ถือว่ามีผลแล้ว เพราะแต่ละท่านได้แถลงข่าวออกมาอย่างชัดเจน เพียงแต่ยังไม่มีการยื่นหนังสือมาอย่างเป็นทางการ ส่วนจะมีใครมาเพิ่มไหมตอนนี้คงยังไม่มี และจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะคิด เพราะว่าตอนนี้คิดแค่จะทำอย่างไรให้กลับมาจัดแข่งขันให้ได้ก่อน เนื่องจากสงสารนักมวยที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมา 3-4 เดือนแล้ว
“ผมเสียดายโปรโมเตอร์ทุกคน ผมเห็นคุณค่าของทุกคน อย่างน้ากิ่งเพชรก็อยู่มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แต่ก็เปิดกว่้างให้ทุกคน ใครที่จากไปก็ขอให้โชคดี เพระถือว่าทุกคนรักมวยไทย การขยับขยายนั้นมองเป็นเจตนาทีดี ส่วนราชดำเนินก็จะเดินหน้าต่อไป นำโปรโมเตอร์ที่ยังเหลืออยู่ไปต่อ หาสิ่งที่ดีีที่สุดให้กับพวกเขา และถ้าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ก็พร้อมจะเปิดประตูต้อนรับกลับมาร่วมงานได้อีกครั้ง เพราะทุกคนรักมวยไทยทั้งสิ้น”
นายจิต กล่าวเสริมว่า ขั้นตอนการจัดมวยต่างๆ คงไม่มีการเปลี่ยนแปลง แค่โปรโมเตอร์ลดลง ยังคงมีการแลกเปลี่ยนมวยก็ยังดำเนินต่อไป แค่ไม่มี 4 ศึกเหล่านี้เท่านั้น การเคลื่อนไหวยังเป็นเหมือนเดิม เพราะทุกคนรักมวยไทย ไม่มีการกั๊กอะไรทั้งสิ้น การเป็นมวยศึกต่างสายเจอกันก็น่าจะยังมีอยู่
นายสนามมวยเวทีราชดำเนิน กล่าวปิดท้ายว่า ในส่วนของการจัดการแข่งขันแบบนิวนอร์มัลนั้น แน่นอนว่ามีการเตรียมมาตรการที่จะจัดแข่งขันแบบออนไลน์ เพื่อให้นักมวยได้กลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง ส่วนรูปแบบจะเป็นอย่างไรจะมีการสรุปอีกครั้ง คร่าวๆ ที่มีการคุยกันคือจะไม่คิดค่าใช้จ่ายในส่วนของเวทีเลย แต่โปรโมเตอร์เองก็รับผิดชอบในส่วนของค่าตัวนักมวยไป แล้วเมื่อมีรายได้ค่อยมาแบ่งกันอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามต้องรอดูมาตรการของรัฐบาล ถ้าเปิดให้มีการจัดแข่งขันแบบปิดได้เมื่อไหร่ ก็พร้อมจะกลับมาจัดการแข่งขันได้ทันที
