ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะนัดที่ 2 ติดต่อกันในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลใหม่ หลังบุกคว้าชัยเหนือคริสตัล พาเลซ 2-0 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม
เจมส์ มิลเนอร์ สังหารจุดโทษให้ทีมขึ้นนำในนาที 45 หลังจากโมฮาเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกคนสำคัญของหงส์แดงโดนมามาดู ซาโก้ ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ซาดิโอ มาเน่ จะทำประตูย้ำชัยในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+3 โดยเกมนี้เจ้าถิ่นต้องเหลือผู้เล่น 10 คนในนาทีที่ 75 หลังจากอารอน วาน-บิสซาก้า โดนใบแดงไล่ออกจากสนามหลังจากทำฟาวล์ซาลาห์
ภายหลังการแข่งขัน เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ยอมรับว่า เกมนี้ไม่ง่ายเลยสำหรับหงส์แดงเนื่องจากพาเลซเล่นบอลกันง่ายๆ แต่เป็นระบบ ต่อกรได้ยาก พยายามโยนบอลยาวสร้างความปั่นป่วนให้หงส์แดง เกมนี้ลูกทีมชนะมาแบบทุลักทุเล ไม่สวยหรูแม้แต่น้อย แต่ก็น่าชื่นใจที่นักเตะแต่ละคนพยายามช่วยกันดีจนไม่เกินความผิดพลาดใหญ่ๆ
สำหรับการเก็บ 6 คะแนนเต็มจาก 2 นัดแรกนั้น คล็อปป์ออกตัวว่า ไม่สนใจและไม่ควรจะมาพูดกันเรื่องลุ้นแชมป์ลีกเวลานี้ เพราะเพิ่งเตะไปแค่ 2 นัด ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ ถ้าจะมีอะไรสักอย่างที่ตนอยากสื่อสารให้ทีมอื่นรู้ ก็คงแค่ความตั้งใจที่จะให้ลูกทีมเก็บชัยชนะให้ได้เรื่อยๆ นั่นเอง
ขณะที่รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีมคริสตัล พาเลซ ให้สัมภาษณ์อย่างหัวเสียว่า พาเลซไม่สมควรต้องตกเป็นรอง 0-1 ช่วงปลายครึ่งแรก เพราะจังหวะนั้นไม่น่าเป็นการฟาวล์ และกรรมการไม่ควรเป่าให้เป็นลูกจุดโทษ นับว่าหงส์แดงมีโชคช่วยอีกครั้งเหมือนกับปีที่แล้วที่มาเก็บ 3 แต้มจากพาเลซได้ ส่วนกรณีใบแดงของวาน-บิสซาก้านั้น คิดว่าลูกทีมไม่ได้มีเจตนาจะดึงซาลาห์ให้ล้ม แต่กรรมการตัดสินถูกแล้ว เนื่องจากเป็นแนวรับตัวสุดท้ายก่อนถึงประตู
ด้านแกรี่ เนวิลล์ อดีตกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฐานะนักวิจารณ์เกมชื่อดัง กล่าวว่า จังหวะนั้นซาลาห์พุ่งล้มชัดเจน เป็นการแสดงออกแบบเกินจริงที่พวกนักเตะชอบใช้กัน แน่นอนว่าฝ่ายตรงข้ามต้องไม่พอใจในจังหวะนั้นแน่นอน
