เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยันไม่ประมาท “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะชนะรวดมา 3 เกมหลังสุด และเชื่อลูกทีมจะนำความพ่ายแพ้ในเกมกับนาโปลี มาเป็นแรงกระตุ้นในเกมนี้
ทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะเปิดรังแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูง ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษนัด “ซุปเปอร์ซันเดย์” วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม เวลา 22.30 น.
โดยฤดูกาลที่ผ่านมา แม้ว่าเกมแรกที่เจอกัน “หงส์แดง” จะบุกไปพ่ายถึงถิ่นอิติฮัด สเตเดียม 0-5 แต่หลังจากนั้นชนะรวดทั้ง 3 เกมที่เจอกัน เริ่มจากในพรีเมียร์ลีก เอาชนะไป 4-3 ก่อนเจอกันในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นการเปิดบ้านชนะ 3-0 ก่อนบุกไปชนะ 2-1 และทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ในท้ายที่สุด
อย่างไรก็ตาม คล็อปป์กล่าวถึงเกมที่ทั้งสองทีมจะเจอกันว่า แม้ว่าทีมจะชนะถึง 3 นัดเมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่มีเกมไหนที่จบเกมแล้วมีความรู้สึกว่ารู้วิธีในการเอาชนะซิตี้แต่อย่างใด ดังนั้นทีมจะต้องมีจุดมุ่งหมายเหมือนเดิม ป้องกันเกมรุก ไม่ให้สร้างโอกาสหน้าปากประตูตัวเอง ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าจะเป็นงานที่หนักแน่นอน
กุนซือหงส์แดงกล่าวต่อว่า แม้เกมนี้จะเจอกันในสถานการณ์ที่มีคะแนนเท่ากัน แต่ไม่ใช่การวัดว่าใครจะได้เป็นแชมป์ เป็นเพียงเกมเกมหนึ่งที่ต้องเจอกับซิตี้ในบ้าน ซึ่งเป็นเกมที่ยากมาก และยากทุกครั้งเวลาที่เจอกัน ไม่ว่าจะเป็นเกมที่ชนะ 3-0 หรือ 4-3 ก็ตาม
ทีมหงส์แดงออกสตาร์ตอย่างร้อนแรงด้วยการชนะ 7 เกมรวด ก่อนที่ 3 เกมหลังสุดจะไม่ชนะใครเลย ตั้งแต่แพ้เชลซี ในคาราบาว คัพ 1-2 เสมอเชลซี ในพรีเมียร์ลีก 1-1 และบุกไปแพ้นาโปลี 0-1 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ทว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ เชื่อมั่นว่าความพ่ายแพ้ในเกมล่าสุดกับนาโปลีนั้นจะเป็นแรงกระตุ้นให้ทีม จริงอยู่ว่าเกมนั้นเขาไม่ได้อยากแพ้นาโปลี ซึ่งความรู้สึกแย่ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากเกมนั้นมันทำให้ทีมไม่อยากกลับไปรู้สึกแบบนั้นอีก
คล็อปป์กล่าวปิดท้ายถึงอาการบาดเจ็บของนาบี เกอิต้า กองกลางของทีมว่า เกอิต้านั้นมีอาการกล้ามเนื้อที่หลังกระตุก ซึ่งต้องรอดูการซ้อมก่อนจึงจะบอกว่าลงเล่นได้ไหม แต่มันไม่ได้ดูซีเรียสขนาดนั้นและยังมีโอกาสที่จะลงเล่นได้อยู่
