เมาริซิโอ ซาร์รี่ ผู้จัดการทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ยอมรับว่าชินชากับเสียงโห่จากแฟนบอลของตัวเองอยู่แล้ว และยืนยันมองไม่ทันในจังหวะประตูตีเสมอว่าล้ำหน้าหรือไม่ ในเกมที่เชลซีบุกไปเอาชนะคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 2-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 31 มีนาคม
เกมนี้เชลซีตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อน 0-1 ตั้งแต่นาทีแรกของครึ่งหลัง ทำให้เหล่าบรรดาแฟนสิงห์บลูส์ต่างโห่แสดงความไม่พอใจในแผนการเล่นที่ซาร์รี่จัดวาง ก่อนที่เชลซีจะได้ประตูตีเสมอในจังหวะล้ำหน้าจากการโหม่งของเซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า จากนั้นทีมเยือนได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาเจ็บนาทีที่ 90 จากการโหม่งของรูเบ็น ลอฟตัส-ชีค ทำให้เชลซี ชนะไป 2-1 เก็บ 3 คะแนนแบบดุเดือด ส่งผลให้เชลซีเก็บเพิ่มเป็น 60 แต้ม อยู่อันดับ 6 ส่วนคาร์ดิฟฟ์มี 28 แต้มเท่าเดิมจมโซนหนีตายอันดับที่ 18 ของตาราง
นายใหญ่สิงห์บลูส์ระบุว่า เข้าใจแฟนบอลดีที่แสดงอาการออกมาแบบนั้น พวกเขาย่อมไม่มีความสุขเพราะสกอร์ทีมรักเป็นฝ่ายตามหลัง ส่วนตัวนั้นชินแล้วกับเสียงโห่ที่ได้รับบ่อยๆ แค่ผิดหวังแทนเหล่านักเตะนิดหน่อยกับปฏิกิริยาเหล่านั้น
นอกจากนี้ ซาร์รี่ยังเชื่อว่าเชลซีเป็นฝ่ายที่สมควรได้รับชัยชนะแล้ว แม้ว่าประตูตีเสมอจะมีหลายฝ่ายโวยวายว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า รวมถึงการที่อันโตนิโอ รูดิเกอร์ แนวรับของเชลซีที่ควรโดนใบแดงจากจังหวะดึงเค็นเน็ธ โซฮอร์ กองหน้าคาร์ดิฟฟ์ ซึ่งกำลังจะหลุดเดี่ยวไปทำประตูในนาทีที่ 87 แต่กลับได้รับแค่ใบเหลืองเท่านั้น
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าจังหวะนั้นล้ำหน้าหรือเปล่า คงต้องไปดูภาพเหตุการณ์นั้นอีกครั้งก่อน แต่บางทีนั่นอาจจะเป็นโชคดีของทีมเราก็ได้ ส่วนจังหวะของรูดิเกอร์ แวบแรกผมคิดว่าเราเป็นฝ่ายที่ได้ฟาวล์เสียอีก แต่ทั้งนี้ก็มองไม่ถนัดนั่นแหละ เพราะซุ้มม้านั่งสำรองที่อยู่นั้นค่อนข้างไกลจากจุดเกิดเหตุพอสมควร” ซาร์รี่กล่าว
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
